
“พิทยา วรปัญญาสกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC เปิดแผนเชิงกลยุทธ์ “Shift Forward-Survive and Speed Up with Digital&AI” เดินหน้าทรานฟอร์มองค์กรเชิงรุก
ปัจจจุบัน KTC มีสมาชิกบัตร 2.3 ล้านคน 2.9 ล้านใบ โดยในปี 69 ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ 250,000 ราย แต่กลยุทธ์ในปี 69 อาจไม่ได้มุ่งเพียงเพิ่มจำนวนบัตรหรือเพิ่มลูกค้าใหม่เท่านั้น แต่มองว่าต้องรักษาพอร์ตที่มีอยู่ให้มีความแข็งแกร่ง ควบคู่ไปพร้อมกับการคุมคุณภาพหนี้ NPL ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2%
ข้อสำคัญต้องให้สมาชิกเลือกหยิบบัตรเครดิต KTC มาใช้ จนเป็นที่มาของตัวเลขยอดแอคทีฟ 95% หรือใน 1 ปี มี 95 คนหยิบมาใช้ เทียบกับอุตสาหกรรมมียอดแอคทีฟที่ 65% โดยจะยังคงรักษาความแข็งแกร่งนี้ต่อไป
การจะดำรงความแข็งแกร่งนี้ ต้องเตรียมสิทธิประโยชน์ให้ตรงใจลูกค้า ทั้ง “กิน ช้อป เที่ยว” และเพิ่มหมวดใหม่ตามเทรนด์ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เช่น Healthcare และ well being
นอกจากพอร์ตเดิมแข็งแรง ต้อง move forward หาธุรกิจใหม่เติบโตเข้ามาเสริม โดยธุรกิจที่เข้าตาคือ ธุรกิจประกัน เพราะพบว่ามียอดใช้จ่ายอันดับ 1 ของบัตรเครดิต นับว่าจะต่อยอดได้ในอนาคต หลังจาก KTC ได้ไลเซนมาเมื่อปลายปี 67
KTC ยังจะเดินหน้าร่วมมือเชิงลึกกับ KTB ในฐานะบริษัทแม่มากขึ้น โดยเน้น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่กลุ่มลูกค้าWealth กลุ่มSME และกลุ่มGenZ เจาะกลุ่มนักศึกษา เพื่อสร้างฐานสมาชิกใหม่ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นกำลังซื้อ
เจาะทะลุทะลวงสินเชื่อส่วนบุคคล
ในส่วนของสินเชื่อบุคคล ปี 69 ตั้งเป้าเติบโต 2% ด้วยการเพิ่มสมาชิกใหม่ 110,000 ราย โดยบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” จะใช้ 4 กลยุทธ์ การตลาดในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1.ปรับโฉมการสมัครออนไลน์ รู้ผลไวใน 30 นาที 2.ขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านพันธมิตร และจุดขายที่มีดีมานด์สูงกว่า 2,000 ร้านค้า สแกนสมัครได้ที่หน้าร้านอนุมัติ และรับสินค้าได้ทันที รวมถึงความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยผ่านฐานข้อมูลPayroll
3.ดูแลสมาชิกกว่า 700,000 ราย ด้วยสิทธิพิเศษ ทั้ง “รูด-โอน-กด-ผ่อน” เพื่อรองรับพฤติกรรมทุกไลฟ์สไตล์ และเดินหน้าโครงการ “เคลียร์หนี้” เพื่อส่งเสริมวินัยการชำระเงิน และ 4.ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ผ่านโปรโมชั่นผ่อนสินค้าด้วยดอกเบี้ย 0% นานถึง 24 เดือน
สำหรับ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อส่วนบุคคลในรูปแบบสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะใช้กลยุทธ์ ในการขยายฐานสมาชิกผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย กว่า 900 สาขา เป็นช่องทางหลัก โดยจะปรับโฉมผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
เพิ่มสปีดให้บริการ ด้วยความเชื่อที่ว่า “ปลาเร็วกินปลาช้า”
แม้ว่าระบบเดิมซึ่งKTC ใช้มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ยังคงทำงานได้ดี แต่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง ระบบที่มีอาจไม่ทันท่วงทีต่อการแข็งขัน จนเป็นเหตุทำให้ KTC ต้องยกเครื่องระบบไอที เพื่อให้เชื่อมกับโลกยุคใหม่ สามารถแข่งขันในภาวะที่การแข่งขันของโลคยุคใหม่ต้องอาศัยความเร็วในการให้บริการ
ข้อดีของระบบใหม่ทำให้ได้สปีดที่เร็วขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่า “ปลาเร็วกินปลาช้า” ส่งมอบสิ่งต่างๆ ด้วยสปีดที่เร็วขึ้นทำให้ลูกค้าใช้งานได้เร็วขึ้น การเปลี่ยนแปลง Core System นอกจากจะได้ความเร็วแล้ว ยังได้นำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้แม่นยำน สามารถออกผลิตภัณฑ์โดนใจ ทำการตลาดได้ตรงจุด
ผลของการกระทำย่อมสะท้อนที่ผลงาน
ในปี 69 เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับต่ำที่ 1.6% ดังนั้นเป็นปีที่ท้าทาย ในส่วนของ KTC ยังรักษาการเติบโต พอร์ตสินเชื่อรวมคาดว่าจะโต 1-2% และมีแผนจะกู้ยืมเงิน 1.2 หมื่นลบ. นอกจากรองรับการเติบโตของสินเชื่อแล้วจะนำไปทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด ด้วยภาวะดอกเบี้ยขาลง จะทำให้ต้นทุนการเงินของKTC ลดลง 0.15-0.20%
ยืนยันว่ากำไรปี 69 จะต้องมากกว่าปี 68 แน่นอน KTC ยึดมั่นดูแลผลประกอบการ และดูแลStake Holder
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon































