
มิติหุ้น – สรุปภาพรวมตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลงเช่นกัน เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นปัจจัยฉุดตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,461.93 จุด ลดลง 249.04 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,905.74 จุด ลดลง 24.20 จุด หรือ -0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,474.35 จุด ลดลง 118.75 จุด หรือ -0.50%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของดัชนีเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากหุ้นกลุ่มกลาโหมและกลุ่มการเงินปรับตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 589.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.09%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาโลหะมีค่าประเภทอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงพลาตินัม ต่างก็ปรับตัวลงเนื่องจากแรงขายทำกำไรเช่นกัน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 209.10 ดอลลาร์ หรือ 4.59% ปิดที่ 4,343.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 61.94 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งความตึงเครียดล่าสุดที่เกิดขึ้นในเยเมน อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,270 จุด เราคาดการณ์ดัชนีจะเคลื่อนไหว sideway อยู่ในกรอบ นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะชะลอการลงทุน ส่งผลให้มูลค่าซื้อขายจะค่อนข้างเบาบาง
ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะกระตุ้นดัชนี ในขณะที่ในช่วง ม.ค. 2569 ประเด็นสำคัญจะอยู่ที่การเลือกตั้ง และผลประกอบการปี 2568 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะประกาศออกมาเป็นกลุ่มแรก
ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามในระยะสั้น ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 9-10 ธันวาคม ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในคืนวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2569 และข้อตกลงสันติภาพยูเครน-รัสเซียก่อนการเจรจาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ระหว่างประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
หุ้นแนะนำ
CK: เราเชื่อว่านักลงทุนรับรู้ความกังวลจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจส่งผลทำให้การประมูลโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานล่าช้าแล้ว โดยเราเชื่อว่าราคาหุ้นอาจปรับตัวสูงขึ้นหากบริษัทชนะประมูลโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐและมี SG&A ลดลง
(Take profit : 12.20 / Stop loss : 11.70)
SCB: เราแนะนำ “ซื้อ” เพราะคาดว่า SCB จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 7.9-8.3% ต่อปีในปี FY25-27 (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารไทยที่เราศึกษา) รวมทั้งมี ROE สูงที่ 9.0-9.6% ในปี FY25-27
(Take profit : 139.00 / Stop loss : 136.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























