“KTBST” ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (3-5 ม.ค.) คาดกรอบดัชนีที่ 1,740-1,770 จุด

135

“KTBST” ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (3-5 ม.ค.) ดัชนีมีโอกาสเดินหน้าต่อตามภูมิภาค แต่อาจผันผวนจากแรงขายทำกำไร ติดตาม FOMC Minute ในวันที่ 4 ม.ค. ในเรื่องการปรับประมาณการเศรษฐกิจ คาดกรอบดัชนีที่ 1,740-1,770 จุด  หุ้นเด่น RS , SAT, PTTEP

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (3-5 ม.ค.) ว่า สัปดาห์นี้ตลาดจะเปิดทำการเพียง 3 วัน แม้คาดจะมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้น แต่ด้วยดัชนีตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่เปิดซื้อขายในแดนบวกในวันแรก ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ขึ้นแตะ $60 เหรียญ จะเป็นแรงหนุนให้กับตลาดหุ้นไทยด้วย ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดจะมีโอกาสเดินหน้าต่อหุ้นกลุ่มหลักยังมีโอกาสไปต่อแต่อาจมีการสลับกลุ่มเข้าซื้อขายในแต่ละวัน KTBST เน้นไปที่หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวมากขึ้น ประเมินกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีฯสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,740-1,770 จุด

โดยมองหุ้นที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ ได้แก่ RS ที่เข้ามีธุรกิจความงามซึ่งมี margin สูง , หุ้น DELTA ให้ความสนใจหลังราคาปรับตัวลงมามาก แต่ธุรกิจของบริษัทอยู่ในทิศทางที่มีการเติบโต คือ EV car และ internet of things ส่วนหุ้นในกลุ่มอื่น ประกอบด้วย SAT, PTTEP และ CENTEL รวมไปถึงหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างเช่นโรงไฟฟ้า GULF และ BGRIM อย่างไรก็ตาม เราให้น้ำหนักลงทุนที่น้อยลง หรือให้ระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้นหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อาทิ AOT , BANPU,

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ติดตาม FOMC Minute ในวันที่ 4 ม.ค. โดยคาดว่าจะยืนยันการปรับประมาณการเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปี 2018 – 2019 ตลอดจนมุมมองเงินเฟ้อที่ฟื้นตัวดีขึ้น ในขณะที่ตัวเลขอื่นๆ เริ่มจากวันที่ 3 มกราคมจะมีการรายงาน ISM PMI คาดว่าจะออกมาที่ 58.1 ทรงตัวจากช่วงก่อนหน้าที่ 58.2 และในวันที่ 4 จะมีการรายงาน ADP employment change โดยคาดว่าจะทรงตัวที่ 190K และในวันที่ 5 จะมีการรายงานดุลการค้าคาดว่าจะออกมาขาดดุล 48 พันล้านเหรียญ ลดการดุลลงจากช่วงก่อนหน้า และอัตราการว่างงานคาดว่าจะออกมาที่ 4.1% คงที่จากช่วงก่อนหน้า และ ISM PMI นอกภาคการผลิต คาดว่าจะทรงตัวเช่นกันที่ 57.6 รวมถึงตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่ผ่านมาในทุกธุรกิจต่างๆที่ไม่รวมอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งจะประกาศวันที่ 5 ม.ค. ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 190,000 ราย

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 60 เหรียญฯ หลังมีการประท้วงรัฐบาลโดยประชาชนอิหร่าน ที่อาจลามไปถึงการผลิตน้ำมันของอิหร่านเอง และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลง แม้อาจมีผลช่วงสั้นๆ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงตอบรับต่อการลดกำลังผลิตของ OPECอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดย Dollar Index ลดลง 1.6% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ทั้งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการอ่อนค่าของดอลล่าร์ เป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันและปิโตรเคมีในช่วงนี้ด้วย

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำสัปดาห์