5-7 แสนล. ปั๊มเศรษฐกิจ

134

เปิดทำการปีจอ หุ้นไทยระเบิดเถิดเทิง จนนักลงทุนจำนวนมาก “ตาค้าง” ไม่เชื่อว่า กระทิงจะมาเร็วขนาดนั้น ดัชนีทำนิวไฮต่อเนื่อง ทุบทุกสถิติ และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุด 1,813.17 จุด

แต่ที่ประหวั่นพรั่นพรึงกันมาก คือ “การแข็งค่าของเงินบาท” ที่ล่าสุดแข็งค่าขึ้นมาอยู่แถวๆ 32.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  หรือ BAY ระบุว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง จากการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ  คาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.30 ต่อดอลลาร์สหรัฐ

“คู่พระเอก” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเวลานี้ มาจาก “การส่งออก” และ “การท่องเที่ยว” ที่มีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง ซึ่งปี 2561 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 5% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยจะมี 37-37.5 ล้านคน

แต่ที่น่าจับตา “ฟันเฟือง” ที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2561 นั่นคือ “เม็ดเงิน” ประมาณ 5-7 แสนล้านบาท

ถามว่า มาจากไหน?

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แจกแจงว่า

ส่วนแรก ประมาณ 1-2 แสนล้านบาท มาจากรายได้จากภาคการส่งออก ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนที่สอง ประมาณ 1 แสนล้านบาท มาจากภาคการท่องเที่ยวที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น

ส่วนที่สาม จากเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจฐานราก ทั้งมาตรการบัตรสวัสดิการคนจนเฟส 1 และ 2 และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมประมาณ 1-1.5 แสนล้านบาท

ส่วนที่สี่ เงินลงทุนจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อีก 1-1.5 แสนล้านบาท

ส่วนที่ห้า เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ราว 2-3 แสนล้านบาท

ส่วนที่หก เม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนที่จะตามมาจากการลงทุนอีอีซี อีก 5 หมื่น – 1 แสนล้านบาท

รวม 5-7 แสนล้านบาท มีผลดันจีดีพีขึ้น 2-3%

โดยหอการค้าไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 61 จะขยายตัวที่ 4% ครึ่งปีแรกขยายตัว 4.5% และครึ่งปีหลังอยู่ที่ 4.2% ส่งผลให้ทั้งปีนี้ขยายตัวในกรอบ 4.2-4.5% และมีโอกาสเป็นไปได้แตะระดับ 5%

ดูเหมือนจะสดใสไปหมด

00 “บิ๊กเซ็ต” 00