5 อับดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคเช้า

431

อันดับที่ 1 KSL รับประโยชน์ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า รัฐบาลประกาศใช้ ม.44 ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบนั้นได้ยกเลิกการเก็บค่าส่วนต่างราคาที่กำหนดเก็บ 5 บาทเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) จากราคาหน้าโรงงาน ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่โรงงานผลิตน้ำตาลและชาวไร่ เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายจะถูกกำหนดตามราคาตลาดโลก โดยจะเริ่มใช้ในฤดูกาลหีบอ้อย 2560-2561 โดยราคารับซื้อน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะอิงตามราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอนเบอร์ 5 บวกราคาไทยพรีเมียม โดยจะพิจารณาเฉลี่ยเป็นรายเดือนนายชลัช  ชินธรรมมิตร์ กรรมการ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) เปิดเผยว่า หลังจากปรับโครงสร้างคาดว่าราคาน้ำตาลทรายจะลดลง 2 บาทจากเดิมราคาน้ำตาลทรายอยู่ในระดับ 19 บาทต่อกิโลกรัม และราคาน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 20 บาทต่อกิโลกรัม แม้ราคาจะลดลงแต่ยังเกิดประโยชน์กับทั้งผู้ประกอบโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อยเนื่องจากยกเว้นการเก็บส่วนต่างราคา 5 บาท ขณะที่ทิศทางราคาน้ำตาลดิบตามตลาดโลกปีนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 15-16 เซ็นต่อปอนด์

อันดับที่ 2  AJ วางเป้าปีจอเติบโต 10%  เพิ่มกำลังการผลิตเต็มสูบ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. เอ.เจ.พลาสท์ (AJ) โดยนายทศพล จินันท์เดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ AJ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต 10% เนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 100,000 ตันหรือ 10% จากปีก่อนกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 256,000 ตันต่อปี ขณะเดียวกันในปีนี้คาดว่าภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางเติบโตดี ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนการสั่งซื้อผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันมีการส่งออกต่างประเทศ 65% ขายในประเทศ 35% ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทยังได้เตรียมงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทในการลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในส่วนของการผลิตแผ่นฟิล์ม BOPA มีกำลังการผลิต 15,000 ตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จกลางปีนี้แล้วสามารถเดินเครื่องได้ปลายปี2561 ส่งผลให้มีกำลังการผลิตในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ตันต่อปีหนุนรายได้เติบโตได้เป็นอย่างดี

อันดับที่3 SAPPE เช้านี้ ทะยานบวก รับอานิสงส์ ม.44 ลอยตัวราคาน้ำตาล

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหว ราคาหุ้น  บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ช่วงเช้านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่  คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.  ได้ ใช้ ม.44 ลอยตัวราคาน้ำตาลทรายโดยให้มีผลทันที ซึ่งเบื้องต้นคาดราคาน้ำตาลในไทยจะลดลง 2-3 บาทต่อ กก. ซึ่งส่งผลต่อผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งแน่นอนว่า SAPPE ได้รับอานิสงส์เชิงบวกตามไปด้วย ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากที่SAPPE ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท โคโคนัท แฟคทอรี่ จำกัด (CCF) ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากมะพร้าว จำนวน 40% จะส่งผลดีต่อบริษัทภายในปีนี้เต็มปี ขณะที่ราคาปัจจุบันยังมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งแนวโน้มธุรกิจจากนี้ เชื่อว่า จะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเหมาะสม 32 บาท ณ เวลา 10.54 น. ราคาหุ้น SAPPE อยู่ที่ 27.25บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 5.83% มูลค่าการซื้อขาย 50.70 ล้านบาท

อันดับที่ 4 GPSC ราคาดีลรับข่าวลงทุนโซลาร์รูฟในปั้ม คาดคิว4/60ผลงานแจ่มกูรูแนะเป้า 92 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ราคาหุ้น บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC)  ในช่วงเช้าปรับตัวขึ้นที่ 80.25 บาทเพิ่มขึ้น 2.25 บาทหรือ 2.88% คาดว่ารับข่าวดีที่เริ่มดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูปท็อปในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. แล้ว 2 แห่งพร้อมขยายลงทุนต่อเนื่องในสถานีบริการของปตท.ที่จะดำเนินการเปิดใหม่ ขณะเดียวกันยังได้อานิสงส์ที่คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตดีในช่วงไตรมาส4/2560 จากปัจจัยหนุน โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ อิจิโนเซกิ โซลาร์ เพาเวอร์ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 20.8 เมกะวัตต์ที่ COD ในเดือนธันวาคม 2560  และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ เฟส 2 (IRPC–CP) จังหวัดระยองที่CODในเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายลงทุนตามการลงทุนของบริษัทในกลุ่มปตท.อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ด้านนักวิเคราะห์บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ยังคงคำแนะนำ ซื้อ และปรับราคาเป้าหมายที่ใช้วิธี DCF ขึ้นเป็น 92 บาท เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรที่จะโตขึ้น

อันดับที่ 5 LH กางแผนปี 61 ผุด 18 โครงการ มูลค่า 3.63 หมื่นลบ. พร้อมตั้งเป้ารายได้ที่ 3.67 หมื่นลบ. และยอดขาย 3.1 หมื่นลบ. โบรกฯเชียร์ซื้อให้ต้าน 12.50 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH)โดยนายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 อยู่ที่ 3.67 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3.3 หมื่นล้านบาท และจากอสังหาฯเพื่มให้เช่า 3.7พันล้านบาท  ขณะเดียวกันยังตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 3.63 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพ และปริมณฑล 16 โครงการซึ่งจะเป็นโครงการแนวราบ และโครงการในต่างจังหวัดอีก 2 โครงการ ซึ่งจะทำให้ในปีนี้บริษัทมีโครงการทั้งหมด 86 โครงการ จากสิ้นปีก่อนมี 68 โครงการ  ทั้งนี้บริษัทวางงบลงทุนรวมในปีนี้ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น งบสำหรับซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการอยู่ที่ 7 พันล้านบาท และงบสำหรับลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีก 6 พันล้านบาทด้านนางสาวศศิมา  หัตถกิจนิกร  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป ประเมินแนวโน้มราคาหุ้น LH มีสัญญาณซื้อดี ประกอบกับวอลุ่มหนาแน่น แนะนำให้เก็งกำไร โดยประเมินแนวต้านที่ 12.50 บาท