อันดับที่ 1 BEAUTY กางแผน 5 ปี รายได้แตะ 10,000 ลบ. มาร์เก็ตแคปทะยาน 100,000 ลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY โดยนายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ 5 ปี (61-65) ตั้งเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 20% อัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% โดยคาดว่าในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2561 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไม่ต่ำกว่า 4,290 ล้านบาทหรือโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 20% ตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 120 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนเปิดสาขาใหม่จำนวน 80 ล้านบาท และนำไปใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและBusiness Intelligence (BI) จำนวน 40 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่าย ( Licence shop )
อันดับที่ 2 บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำซื้อ ORI ราคาพื้นฐาน 25.50 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ประเมินแนวโน้ม บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ว่า เป้าปี 61 ปรับเพิ่มขึ้น รายได้จากการโอนเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 58% จากปีก่อน และยอดขาย 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อน และเปิดขายโครงการใหม่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 98% จากปีก่อน เพิ่มขึ้นจากเป้าเดิมจากรายได้โอน 1.4 หมื่นล้านบาท และเปิดขาย 2.5 หมื่นล้านบาท สำหรับการเปิดขายโครงการใหม่แบ่งเป็นคอนโด 2.6 หมื่นล้านบาท และบ้านแนวราบ 4 พันล้านบาท คอนโดส่วนใหญ่ที่เปิดขายเป็นแบรนด์ Knightsbridge และ Park ดังนั้นไม่เกิน 80% ของคอนโดที่เปิดขายใหม่จะอยู่ภายใต้บริษัทร่วมทุน
อันดับที่ 3 PRM ทุ่มงบ 5.1พันลบ. ซื้อเรือใหม่เพิ่ม 9 ลำ ดันรายได้ทั้งปีโต10%
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) โดยแหล่งข่าวอุตสหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนสำหรับปี 2561 ไว้ที่ 5,100 ล้านบาท เพื่อหวังนำมาซื้อเรือใหม่เพิ่ม จำนวน 9 ลำ จากเดิมที่บริษัทมีกองเรือรวมทั้งสิ้น 25 ลำ ซึ่งจะดันให้ทั้งปีบริษัทมีกองเรือรวมทั้งสิ้น 34 ลำ ซึ่งจะทำให้มีศักยภาพในการรับงานขนส่งใหม่ได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ที่เชือว่าในระยะต่อไปจะสูงขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกันนี้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 10% จากที่บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ เนื่องจากสถาการณ์ของดีมานด์ -ซัพพลาย ในปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ได้มีการจ้างเรือและชำระค่าบริการได้เป็นวันต่อวัน จึงทำให้ค่าระวางเรือที่ผันผวนไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท อีกทั้งรายได้ประจำที่ได้เป็นวันต่อวันนั้น ยังเป็นยรายได้ที่สม่ำเสมอและได้ในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.พ.61 ถึงแผนการดำเนินงานต่างๆโดยละเอียด รวมถึงการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อไป
อันดับที่ 4 ก.ล.ต.เร่งสรุปเกณฑ์คุมระดมทุนเงินดิจิทัล พร้อมบังคับใช้ Q2/61
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ปัจจุบันการระดมทุนรูปแบบใหม่ผ่านสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Initial Coin Offering หรือ ICO กำลังได้รับความนิยมและได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก แต่ ก.ล.ต.ยังไม่สามารถเข้าไปกำกับดูแลในส่วนนี้ได้ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาจึงได้เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะผ่านช่องทางหลากหลายเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน และสิ้นสุดระยะเวลารับฟังความคิดเห็นไปเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเข้ามากำกับดูแล ICO ของ ก.ล.ต. ทั้งนี้ ก.ล.ต.จะนำเสนอผลการรับฟังความเห็นนี้ต่อกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางในการกำกับดูแลที่ชัดเจนภายในไตรมาส 1/61 และออกกฏเกณฑ์ได้ในช่วงไตรมาส 2/61
อันดับที่ 5 ROJNA ชี้ Q4/60 ผลงานแจ่ม! เป้าปีจอขายที่ดินทะลุ 500 ไร่
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ หรือ ROJNA ช่วงเช้าปรับตัวขึ้นที่ระดับราคา 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 4.11% โดยคาดว่านักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นหลังจากในช่วงไตรมาส 4/2560 มีแนวโน้มทำผลงานออกมาดี โดยนางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ ROJNA เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2560 จะมีการรับรู้รายได้จากที่ดินบริเวณซอยสุขุมวิท 66 ของบริษัท โรจนะ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ROJNA เนื้อที่รวมประมาณ 4 ไร้มูลค่า 1,200 ล้านบาท ขณะที่ในปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) ราว 500 ไร่ทยอยโอนในปีนี้ประมาณ 20% เหลือโอนในปี 2561 ขณะที่ภาพรวมปี 2561 นั้น ROJNA มีทิศทางการเติบโตที่ดีนอกจากมียอด Backlog ที่รอรับเป็นรายได้แล้วช่วงปลายปีที่ผ่านมายังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับกลุ่มนักธุรกิจประเทศจีนในการซื้อที่ดินกว่า 300 ไร่ คาดว่าจะลงนามเซ็นสัญญากันได้ในปีนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจากญี่ปุ่นก็อยู่ระหว่างการสรุปลงทุนในนิคมฯ ROJNA นอกจากนี้แล้ว จากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นดีขึ้น จะส่งผลดีต่อการลงทุน ดังนั้นในปีนี้จึงมีแนวโน้มดีในการขายที่ทะลุ 500 ไร่
