ตลาดฯ คลายกังวล

351

SET index สัปดาห์ที่ผ่านมา แกว่งตัวผันผวน เริ่มจากต้นสัปดาห์ GDP ไทย 4Q60 ต่ำกว่าคาด แต่เมื่อลงรายละเอียดแล้วจะพบว่า ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลข GDP ไทย 4Q60 ต่ำคาดคือ การลงทุนภาครัฐฯที่ลดลง คาดเป็นผลจาก พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ที่เริ่มใช้ใน 4Q60 ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความกังวลต่อความชัดเจนของวิธีการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามกฏหมาย ขณะที่ การบริโภคในประเทศ การส่งออกและนำเข้า เติบโตดีตามคาด ดังนั้นจึงทำให้เราไม่กังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2561 โดยฝ่ายวิจัยฯยังคงคาด GDP ปี 2561 +4.8% (จาก +3.9% ในปี 2560) โดยเราประเมิน การเบิกจ่ายงบฯภาครัฐฯ ที่ชะลอตัวลงไปเป็นเพียงผลที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น และจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2561

ขณะที่กลางสัปดาห์เกิดความกังวลต่อประเด็นเงินเฟ้อโลก ที่อาจส่งผลต่อการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนอีกครั้ง อย่างไรก็ดีล่าสุด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซ็นหลุยส์ นายเจมส์ บูลลาร์ด แถลงว่า “ต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี กว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะเกินเป้าหมายของเฟด” และว่า “การขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินอาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังฟื้นตัว” ขณะที่ ฝั่งยุโรปรายงานประชุม  ชี้ว่ากรรมการ ECB ไม่ได้มีความกังวลต่อเงินเฟ้อ และมองว่ายังไม่ถึงเวลาส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ทั้ง 2 ความเห็นจาก 2 ธนาคารกลาง ช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นโลกรวมถึงไทยผ่อนคลายลงในช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเดิมที่มีต่อประเด็น การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและรวมถึงการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯขณะนี้ ว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมีจำกัด เนื่องจาก 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามเฟด, 2. ผลกระทบต่อการทำ Valuation หุ้นไทยจำกัด และ 3. ผลกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่จะไหลออกมีจำกัด

ประเมิน SET index ยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน กรอบ 1770 – 1820 จุด และกรณีที่สามารถผ่านกรอบ 1820 จุดได้ เราประเมินเป็นการกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นได้อีกครั้ง แนะนำ “สะสม” หุ้นหลักของแต่ละกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากการเติบโตที่โดดเด่นของเศรษฐกิจไทย และแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มที่รายงานผลประกอบการ 4Q60 ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูก Earnings Downgrade เช่น กลุ่ม เครื่องดื่ม (MALEE, CBG), กลุ่มรับเหมาฯ (STEC) เป็นต้น

หุ้นเด่น: กลุ่มค้าปลีก การบริโภคในประเทศ CPALL, COM7, TOA, เพิ่ม RSP และ GPI (รับเศรษฐกิจไทย และความเชื่อมั่นผู้บริโภค), กลุ่มสื่อ MONO, RS (ผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน), กลุ่มนิคมฯ AMATA, WHA (รับโครงการ EEC), กลุ่มธนาคาร BBL (เศรษฐกิจเติบโต), หุ้นเล็กมีสตอรี่ SPPT, SIMAT (ปีนี้ Turnaround และมีดีลซื้อกิจการ)

  สุโชติ ถิรวรรณรัตน์

ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)