PTTGC ลงนาม KRR-SC ตั้งบริษัทร่วมทุน ต่อยอดผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง คาดผลงานปีนี้เติบโตดีกว่าปี 60

281

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC โดย น.ส. ดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 14/2560 เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2560 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯเข้าทำสัญญาร่วมทุน (JointVenture Agreement : JVA) ในโครงการลงทุน ในธุรกิจ Performance Chemicals สาย C4 แล้วนั้น

บริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 7 มี.ค.2561 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (JVA) กับบริษัท KurarayCo., Ltd (KRR) และ บริษัท Sumitomo Corporation (SC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูงประเภท High-Heat Resistant Polyamide-9T (PA9T) ที่ 13,000 ตันต่อปี และ Hydrogenated Styrenic BlockCopolymer (HSBC) ที่ 16,000 ตันต่อปี และดำเนินการยื่นคำขอต่อหน่วยงานภาครัฐในประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมทุนทำธุรกิจ PA9T และ HSBC (MergerControl Clearance)

โดยโครงการร่วมทุนดังกล่าวมีแผนที่จะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด)  จังหวัดระยอง และมีสัดส่วนการลงทุนของบริษัทฯ ร้อยละ 33.4,  KRR ร้อยละ 53.3 และ SC ร้อยละ13.3 ทั้งนี้ เมื่อสามารถสรุปผลการศึกษาและข้อมูลต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะพิจารณาประกาศการลงทุนในลำดับถัดไป

โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจในสาย Performance Chemicals เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีปริมาณความต้องการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายทิติพงษ์  จุลพรศิริดี  ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าวว่า ทิศทางผลประกอบการปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าปี 2560 เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันจะยังทรงตัวในระดับสูงที่ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่าภาพรวมกำลังการผลิตของบริษัทจะเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าในปีก่อน

ส่วนราคาผลิตภัฑณ์ทั้ง Px-Naphtha  และHDPE และโฟลีเอเทอลีนจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากในช่วงกลางปีนี้จะมีโรงกลั่นในตลาดปิดซ่อมบำรุงหลายแห่งส่งผลต่อความต้องการใช้เพิ่มหนุนราคาดีขึ้น รวมถึงยังได้รับปัจจับหนุนจากการเดินเครื่องโรงงาน MLLDPE ในปีนี้ รวมถึงโครงการปรับปรุบประสิทธิภาพการผลิตภายใต้โครงการ MAX

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากที่ผู้ประกอบการปิโตรเคมีในสหรัฐอเมริกามีการเพิ่มกำลังการออกมากเพิ่มขึ้น แต่ได้เตรียมความพร้อมรองรับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวแล้ว
www.mitihoon.com