5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

192

อันดับที่ 1 SEAFCO กำไรโตแกร่ง กูรูปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 11.40 บาท/หุ้น

มิติหุ้น-บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินหุ้น  SEAFCO หรือ บมจ.ซีฟโก้ โดยแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 11.40 บาท/หุ้น โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2561 ขึ้นเล็กน้อย 4% เนื่องจากอัตรากําไรมีแนวโน้มจะดีเกินคาด แต่ปรับลด ประมาณการกําไรปี 2562 ลง 10% จากการเลื่อนการ ก่อสร้างโครงการ MRT สายสีม่วงใต้ออกไปเป็นช่วงครึ่งหลังของปี 2562 จากยอด backlog ในมือที่ 2.5 พันล้านบาท  จึงคาดว่า บริษัทจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 1.66 พันล้านบาทฝ่ายวิจัยจึงมองว่าประมาณการ  downside ที่จํากัดเนื่องจากรายได้จาก backlog คิดเป็นสัดส่วนถึง 72% ของประมาณการรายได้รวมแล้ว จึงยังคงแนะนําให้ “ซื้อ” SEAFCO และให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11.4 บาท (จากเดิม 11 บาท)

อันดับที่ 2 CPALL เตรียมรับรู้กำไรพิเศษขายหุ้น MAKRO 300 ลบ.กูรูให้เป้า 102บาท/หุ้น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”รายงานว่า จากการขาย  BIG LOT   บมจ.สยามแม็คโคร หรือ MAKRO ของ บมจ. ซีพี ออลล์ หรือ CPALL จำนวน 48 รายการ 230,248,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 44 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่า 10,130.91 ล้านบาท ด้านบทวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง Slightly Positive  ต่อการขาย BIGLOT  ดังกล่าว  ซึ่งคาดว่าจะมี  UPSIDE ต่อราคาเป้าหมายเพิ่มให้กับ CPALL ราว 0.15 บาท/หุ้น จากการได้รับ 1. กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนราว 300 ล้านบาท และ 2. กำไรส่วนเพิ่มในแต่ละปีราว 60 ล้านบาท จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 102 บาท/หุ้น ขณะที่ผู้บริหาร CPALL ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า การที่ CPALL มี Big Lot Board ดังกล่าว เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของของหุ้น MAKRO และจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและนโยบายการดําเนินธุรกิจของ MAKRO แต่อย่างใด

อันดับที่ 3 DEMCO มั่นใจรายได้ปี 61 โตสะพัด หลังตุนงานในมือ 4.3 พันลบ. กินยาวถึงปีหน้า

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO โดย นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 2561 จะเติบโตกว่าปีก่อน หลังจากที่บริษัทตุน Backlog ราว 4,300 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ประมาณ 70 – 80% และส่วนที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปี 2562 ทั้งนี้บริษัทฯมีความพร้อมเข้าประมูลงานติดตั้งสายส่ง และสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีมูลค่าโครงการจะเปิดประมูลราว 1 หมื่นล้านบาทต่อปี จากมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 5 – 6 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งการรับงานเสาโทรคมนาคมของภาคเอกชน และงานรับเหมานำสายไฟลงดิน ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

อันดับที่ 4 THG ลุยปั้นรายได้ปีนี้ โตไม่ต่ำกว่า 10% หลังขยายรพ.-ปรับเพิ่มค่ารักษา-เพิ่มศักยภาพรักษาโรค

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG โดย นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายขนาดโรงพยาบาลธนบุรี 1 และธนบุรี 2 อีกทั้งยังได้ปรับเพิ่มค่ารักษาพยาบาล และเวชภัณฑ์ รวมถึงมีความสามารถในการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน จึงจะช่วยให้มีผู้ป่วยเข้ามารักษาได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงยังได้ก่อสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่ที่โรงพยาบาลธนบุรี 1 ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับรถเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 คัน และจะก่อสร้างอาคาร 3 ของผู้ป่วยนอกและอาคารผู้ป่วยในที่โรงพยาบาลธนบุรี 2 เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการผู้ป่วย โดยคาดทั้ง 2 โครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563

อันดับที่ 5 TRITN เผย อยู่ในช่วงดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง กรณีเงินมัดจำโรงไฟฟ้า จำนวน 120 ลบ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขอให้ บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง หรือ TRITN เปิดเผยว่าจากกรณี บมจ.สเตรกา  หรือ Strega ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TRITN และบริษัท ลูเซนท์ เอนเนอร์จี จำกัด หรือ Lucent ซึ่งบริษัทย่อยทางอ้อมของสเตรกา ที่ขณะนั้นนำโดย ม.ล.ศานติดิศ ดิศกุล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ TRITN และนายสมชาย ศิริวิชยกุล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Strega พร้อมด้วยคณะกรรมการชุดเก่า มีมติให้กลุ่มบริษัทเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญในธุรกิจโรงไฟฟ้า จำนวน 6 โรง มูลค่ารวมทั้งสิ้น 683 ล้านบาท แบ่งวางมัดจำงวดที่หนึ่ง จำนวน 60 ล้านบาท และงวดที่สอง จำนวน 60 ล้านบาท ในวันที่ 7 เมษายน 2559 และวันที่ 22 เมษายน 2559 ตามลำดับ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 120 ล้านบาท ให้กับกลุ่มผู้ขายที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้า 2 ราย คือ บริษัท อุดรธานีโซล่า พาวเวอร์ จำกัด และ บริษัท แม่โขงกรีนพาวเวอร์ จำกัด  โดยแต่ละบริษัทให้หุ้นสามัญจำนำไว้เพื่อเป็นหลักประกันจำนวนร้อยละ 51 ของทุนชำระแล้ว และกลุ่มผู้ขายมอบหมายให้ นายเฉลิมวุธ ปัญญาสวัสดิ์ มีอำนาจลงนามในสัญญาและเป็นผู้รับเงินมัดจำดังกล่าว