เลือกตั้งจริงหรือปลอม? ประชาธิปไตยปลอม จะดันหุ้นขึ้นได้อย่างไร?

154

ทางออก พรบ. เลือกตั้ง สส. และการได้มาของ สว. เมื่อ 12 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ แห่กันเข้ามาซื้อหุ้นรอบใหม่ จนดันดัชนีหุ้น SET เด้งขึ้น 44 จุด บวกอีก 4 จุด ในวันที่ 13,14 กันยายน ต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิรอบใหม่ แต่ปัญหาคือ เพียงแค่นี้จะดันหุ้นไทยขึ้นไปไกลได้แค่ไหน

ยิ่งเมื่อมีคำสั่งของ คสช. ที่  13/2561 ออกมาอ้างว่า เป็นการคลายล็อคทางการเมือง เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง มีโอกาสที่จะประชุมพรรคได้, วางนโยบายการหาเสียง, รับสมาชิกใหม่ และเพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนเลือกตั้งและทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ ตาม RODE MAP ของ คสช. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับทั้งในและต่างประเทศว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งจริง ตามที่นายกรัฐมนตรีประยุทธได้ประกาศไว้

แต่ก็ยังมีปัญหาตามมาขณะนี้ คือ แกนนำพรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรคเพื่อไทยหลายคน ออกมาแถลงโวยคำสั่งปลดล็อคของ คสช. ว่าทำไมเป็นแค่การคลายล็อค ทำไม คสช. ไม่ปลดล็อคการเมืองให้เต็มที่เลย การคลายล็อคกลับกลายเป็นคำสั่ง Lock แน่นมากขึ้นเข้าไปอีก โดยเฉพาะเรื่องการห้ามพรรคการเมืองหาเสียง และห้ามใช้ Social Media ในการสื่อสารของพรรคการเมืองกับสมาชิกและกับประชาชนทั่วไป

คำสั่งของ คสช. ที่ 13/2561 ที่ยังไม่ปลดล็อคอย่างเต็มที่ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมต่างๆได้ เช่น การๆไปประชุมรับฟังความเห็นประชาชนในการจัดทำนโยบายของพรรค , การห้ามใช้ Social Media ในการหาเสียง , คสช.ยังไม่ยกเลิกอำนาจการใช้มาตรา 44 โดยอ้างว่าจะค่อยๆคลายล็อค ต้องใช้เวลาอีกสักพัก ซึ่งยังไม่รู้ว่า จะเป็นอีกนานเท่าไร? พรรคเพื่อไทยโวยเรื่องนี้มาก ว่าจะก่อให้เกิดการเลือกตั้งจอมปลอม หลอกลวงต่างชาติทั่วโลกหรือเปล่า? คล้ายการเลือกตั้งของเพื่อนบ้านกัมพูชาหรือพม่า?

4 ปีที่ผ่านมารัฐบาล คสช. อ้างการรักษาความสงบเรียบร้อยแล้วปกครองโดยมีสภานิติบัญญัติที่ตนเองแต่งตั้ง 250 คน อนุมัติงบประมาณปีละเกือบ 3 ล้านล้านบาท ติดต่อกันมา 4 ปีเต็ม โดยขาดการตรวจสอบและถ่วงดุลโดยประชาชน อนุมัติ พรบ. งบประมาณ 2562 วงเงินสูงสุด 3 ล้านล้านบาท โดยใช้เวลาพิจารณาแค่ 3 ชั่วโมง แล้วยกมือผ่านด้วยมติเอกฉันท์ โดยไม่มีใครค้านแม้แต่คนเดียว แถมมีงบซื้ออาวุธและงบกระทรวงกลาโหมสูงสุด และมีงบลางที่ไม่ระบุรายละเอียดการใช้จ่ายงบสูงสุดถึง 5 แสนล้านบาท และมีการขาดดุลงบประมาณเฉลี่ยปีละ 3-4 แสนล้านบาทติดต่อกันมา 4 ปีเต็ม

ตลาดหุ้นวันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2561 เปิดตลาดแล้วถูกเทขายร่วงลงไป 6.72 จุด ลงไปถึง 1,715.49 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อค่อยๆดันดัชนี SET ขึ้นมา บวกไปได้ 2.82 จุด อยู่ที่ 1,725.03 จุด แล้วเจอแรงขายลงมาอีก Sideway อยู่แถว 1,720 บวกลบ 3 จุด หุ้นกลุ่มแบงก์ถูกขายออกมามาก KBANK ลดลง 4 บาท อยู่ที่ 213 บาท, SCB ลดลง 1.5 บาท อยู่ที่ 148 บาท, CPALL ลดลง 0.25 บาท อยู่ที่ 68.25 บาท, PTT ลดลง 0.25 บาท อยุ่ที่ 51.50 บาท, BBL ลดลง 1 บาท อยู่ที่ 208 บาท, SCC อยู่ที่ 444 บาท, TRUE บวก 0.5 อยู่ที่ 5.85, EA บวก 2 บาท อยู่ที่ 46.75 บาท, GULF บวก 1.25 บาท อยู่ที่ 71.75, DTAC บวก 2 บาท อยู่ที่ 46.50 บาท

สรุปดัชนีหุ้นไทย น่าจะยัง Sideway 1,720 จุด บวกลบ 5 ถึง 10 จุด ไปสักระยะ รอดูข่าว Trade War สหรัฐฯ-จีน และข่าวอื่นๆ ยังไม่ควรทุ่มซื้อหุ้น เพราะยังมีคนจ้องขายอยู่เยอะ!!

โดย อ.พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ

www.mitihoon.com