หุ้นไทยเด่น เน้นลงทุนกลุ่ม Domestic play

105

          สวัสดีสัปดาห์ส่งท้ายของเดือนกันยายนและไตรมาสที่ 3 นะครับ สัปดาห์นี้มีปัจจัยการลงทุนสำคัญๆ ที่ให้ติดตามกัน ประเด็นสำคัญที่ตลาดติดตามกันคือ การประชุม FOMC ในวันที่ 25-26 ก.ย. นักลงทุนได้คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลการประชุม Fed  จะปรับขึ้นดอกเบี้ย และอีก 1 ครั้งในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาด เพราะที่ได้รับข่าวไปล่วงหน้าแล้ว  แต่ที่จะติดตามดูกันคือทิศทางของ Fed ในการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าว่าจะปรับขึ้นอีกกี่ครั้ง โดย ณ ตอนนี้นักวิเคราะห์ประเมินว่าน่าปรับขึ้น 2 ครั้งในปีหน้า

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยภาพรวมเติบโตดีมากและค่อนข้างจะแข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่น จากตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงาน ตัวเลขการผลิตต่างๆ ที่รายงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมาก็ยังไม่สูง ถือเป็นภาพที่เอื้อต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในปีหน้าอยู่

แต่เมื่อมองภาพของการลงทุนแล้ว เรื่องสงครามการค้าของสหรัฐฯกับจีน ก็ยังส่งผลกับตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ โดยเฉพาะกับตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ น่าจะเห็นตลาดปรับตัวพักฐานลงเพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลาย ขณะเดียวกัน ข้อพิพาททางการค้าของสหรัฐฯกับจีนและประเทศอื่นๆ นั้น  เป็นสถานการณ์ที่ส่งผลต่อกระแสเงินลงทุน หากสงครามการค้าเกิดความรุนแรงจนตลาดเกิดความกังวล จะทำให้เงินไหลเข้าหาตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งถูกมองว่าเป็นตลาดปลอดภัยในการพักเงิน (Safe haven) ในระยะสั้น แต่เงินจะไหลเข้าตลาดตราสารหนี้มากกว่าตลาดหุ้น ซึ่งเราจะเห็นได้จากในช่วงนี้เงินบาทค่อนข้างแข็งค่าและตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมา

สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST ยังให้น้ำหนักในตลาดหุ้นไทย แต่ทิศทางตลาดน่าจะเกิดการพักฐานบ้าง หลังจากหุ้นปรับขึ้นมาแรงในสัปดาห์ก่อน นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งแล้ว ก็ไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาหนุนตลาดเพิ่มเติม หากปัจจจัยในประเทศและนอกประเทศไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เรายังมองว่าหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นอยู่ โดยมองแนวรับที่ระดับประมาณ 1,730 จุด และแนวต้านที่แถว 1,760 จุด

ด้านกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุน KTBST ยังชอบ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ (Domestic play) ในประเทศเป็นหลัก รวมไปถึงกลุ่มบริโภคอื่นๆ อย่างเช่น สุขภาพความงาม และกลุ่มโฆษณา ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องการเลือกตั้งโดยตรง  ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่มองว่ายังไม่มีปัจจัยเด่น เช่น กลุ่มพลังงาน หรือ ส่งออก ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุน KTBST แนะให้ขายทำกำไรออกมาบ้าง และมารอเข้าซื้อในแนวรับแถวๆ 1,730 จุด เช่นเดียวกันสำหรับท่านที่เป็นนักลงทุนระยะยาว แนวรับดังกล่าวสามาถเข้าสะสมได้ครับ …

ชาตรี  โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)