ONEAM ปั้นกองทริกเกอร์เข้าเป้า สบช่องขาย ‘ONE-OPPORTUNITY 6/2’

332

มิติหุ้น – บลจ.วรรณ บริหารกองทุนหุ้นไทย ONE-OPPORTUNITY6 เข้าเป้า 6% ย้ำมุมมองตลาดหุ้นไทยขยายตัวต่อเนื่อง แถมมีปัจจัยเลือกตั้งช่วยหนุน ได้ทีเสนอขาย ONE-OPPORTUNITY 6/2 ดักทำกำไร เคาะขายวันนี้ – 5 ตุลาคม 2561

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. วรรณ หรือ ONEAM เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนเปิด วรรณ ออพพอร์ทูนิตี้ 6 (ONE-OPPORTUNITY6) ซึ่งเป็นกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์เน้นลงทุนในตลาดหุ้น โดยใช้ระยะเวลาการบริหารกองทุนประมาณ 2 เดือน โดยบริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในระดับราคา 10.6006 บาทต่อหน่วย และซื้อหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิดวรรณเดลี่ให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนจะสามารถขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนอื่นได้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

เงินไหลออกจำกัดถึงเวลาลงทุน
จากความสำเร็จดังกล่าว กอปรกับบริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย และมองว่าโอกาสในการปรับตัวลงของดัชนีเริ่มแคบลง ซึ่งหากพิจารณาสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 29.47% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 33.10% สะท้อนได้ว่า ความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินทุนเริ่มจำกัดลง อีกทั้งที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้ทยอยรับรู้ปัจจัยลบไปพอสมควร ซึ่ง ณ ระดับดัชนีปัจจุบัน มองเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน ผนวกกับในช่วงไตรมาส 4 จะเริ่มมีเม็ดเงินจากแรงซื้อกองทุน LTF/RMF เข้ามาในตลาดอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้

สบช่องขายกองออพพอร์ทูนิตี้ 6/2
ดังนั้น บริษัทจึงพิจารณาเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ออพพอร์ทูนิตี้ 6/2 (ONE-OPPORTUNITY6/2) วันนี้ – 5 ต.ค. 2561 โดยกองทุนนี้จะมีความแตกต่างจากกองทุน ONE-OPPORTUNITY6 เนื่องจากจัดอยู่ในประเภทกองทุนผสม ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย กับพันธบัตรรัฐบาลไทยและตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยสามารถลงทุนได้ในสัดส่วน 0-100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ลงทุนในแต่ละช่วง

ทั้งนี้กองทุน ONE-OPPORTUNITY6/2 มีเป้าหมายเลิกโครงการ เมื่อราคา NAV แตะที่ระดับราคา 10.53 บาทต่อหน่วย หรือ ผลตอบแทนประมาณ 5% ภายใน 6 เดือน โดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 2 ครั้ง ครั้งแรกจะรับซื้อคืนหน่วยฯ เมื่อระดับ NAV แตะระดับ 10.30 บาทต่อหน่วย ครั้งที่ 2 จะรับซื้อคืนหน่วยฯ เมื่อ NAV แตะระดับ 10.50 บาทต่อหน่วย และเลิกโครงการเมื่อราคา NAV แตะที่ระดับ 10.53 บาทต่อหน่วย