ฟิลลิปประกันชีวิต ปักหมุดปีนี้โกยเบี้ยโตทะลุ100%

111

มิติหุ้น – ฟิลลิปประกันชีวิต ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยปีแรก 666 ล้านบาท เติบโต 107% เร่งเครื่องขยายฐาน พร้อมส่งผลิตภัณฑ์กระตุ้นตลาดต่อเนื่อง 
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟิลลิปประกันชีวิต เปิดเผยว่า
ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ บริษัทได้มีการขยายสาขาคือสาขานนทบุรี อุบลราชธานี และหนองคาย เพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนทั้งสิ้น 2,910 คน จึงทำให้บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาตัวแทนมืออาชีพ (Smart Career Agent) อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาหลักสูตร เพื่อยกระดับสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ให้เป็นนักวางแผนทางการเงิน และการลงทุนให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร

ตั้งเป้าเบี้ยปีนี้โตทะลุ100%
สำหรับเป้าหมายผลผลิตตลอดปี 2561 นี้ บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยปีแรกจำนวน 666 ล้านบาท เติบโต 107% เบี้ยประกันภัยปีต่อไปจำนวน 834 ล้านบาท คิดเป็นอัตราความคงอยู่ของเบี้ยสามัญร้อยละ 85 และเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% นอกจากนั้นเบี้ยสามัญรายใหม่ต่อกรมธรรม์ (Case size) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 32,938 บาท เป็น 48,030 บาท ณ ปัจจุบัน โดยคาดว่า Case size ณ สิ้นปี 2561 จะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จากที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัทได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในช่วงโค้งสุดท้ายของ ปี 2561 อาทิแบบ โปร เซฟวิ่ง 15/6 ประกันภัยแบบสะสมทรัพย์ เน้นการวางแผนความมั่นคงทางการเงิน ด้วยการชำระเบี้ยเพียง 6 ปี คุ้มครองถึง 15 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ เมื่อครบสัญญาได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง 720% ของทุนประกันภัย และแบบพรีเมี่ยม รีเทิร์น 25/15 ชนิดไม่มีเงินปันผล สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนมรดกให้ลูกหลาน ซึ่งชำระเบี้ย 15 ปี ให้ความคุ้มครอง 25 ปี เมื่อครบสัญญาจะได้รับผลตอบแทน 110% ของเบี้ยประกันภัยที่ได้รับชำระมาแล้วทั้งหมด

คว้าใบอนุญาตธุรกิจLBDU
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบธุรกิจ LBDU และได้จัดตั้งบริษัท GI Broker ขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการด้านการลงทุน และความคุ้มครองภัยได้ครบวงจร

สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนม.ค-ส.ค.2561 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 294 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 36% สำหรับเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปมีจำนวน 504 ล้านบาท คิดเป็นอัตราความคงอยู่ของเบี้ย ประเภทสามัญร้อยละ 89 ส่งผลให้ขณะนี้ บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 798 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเติบโตของปีที่ผ่านมา 20% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของทั้งธุรกิจ