กกพ. ห้าม GPSC ซื้อ GLOW

175

มิติหุ้น – กกพ.ลงมติเอกฉันท์ ห้าม GPSC ซื้อหุ้น GLOW ระบุ เข้าข่ายลดการแข่งขัน ขัดต่อ พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน 2550 มั่นใจ คำชี้ขาด เอื้อต่อบรรยากาศการลงทุน สร้างบรรทัดฐานที่ดี และถูกต้องในระยะยาว

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสานักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการ โดยการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ใน บมจ. โกลว์ พลังงาน (GLOW) เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลต่อการลดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 รวมทั้งการพิจารณาของ กกพ. ยังเป็นการพิจารณาที่ตระหนักถึงการสร้างบรรทัดฐานในการพิจารณาในระยะยาวด้วย

“กกพ. มีมติเป็นเอกฉันท์ และไม่อนุญาตให้ GPSC ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้รับอนุญาต ซึ่งก่อนหน้าได้ยื่นขออนุญาตต่อ กกพ. เพื่อขอเข้าร่วมกิจการกับ GLOW ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารับอนุญาตภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลังจาก กกพ. พิจารณาแล้วพบว่า การรวมกิจการดังกล่าวส่งผลให้พื้นที่อุตสาหกรรมในบางพื้นที่ จะมีบริษัทที่มีอำนาจการบริหารกิจการไฟฟ้าลดลงเหลือเพียงรายเดียว จึงเป็นการลดการแข่งขัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่การให้บริการไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ตาม และ กกพ.เชื่อมั่นว่า มติที่เกิดขึ้น จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีและถูกต้องในระยาวด้วย” นางสาวนฤภัทร กล่าว

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กกพ. จะได้แจ้งคำสั่งไม่อนุญาตไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ตามระเบียบ และจัดทำกรอบหลักการในการพิจารณาเรื่องรวมกิจการตามแนวทางข้างต้น เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป

นางสาวนฤภัทร กล่าวว่า กกพ. ยังมีการพิจารณาในประเด็นของบางพื้นที่อุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งผู้รับบริการอาจมีทางเลือกในการรับบริการจากผู้ประกอบการรายอื่น ได้แก่ กฟภ. และอาจจะทำให้ลดการแข่งขัน ก็พบว่า การให้บริการของ กฟภ. ก็ไม่สามารถทดแทนการให้บริการของลูกค้ากลุ่ม GLOW  ได้ เนื่องจากเหตุผลทางคุณภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่ต้องการความมีเสถียรภาพ รวมทั้ง กฟภ. ยังต้องจำหน่ายไฟฟ้าในราคาเดียวกันทั่วประเทศ (Uniform Tariff) ทำให้ไม่สามารถให้อัตราส่วนลดกับผู้รับบริการได้ ส่งผลให้เกิดการลดการแข่งขันดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 60 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้ กกพ. มีอานาจในการออกระเบียบ กำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อมิให้มีการกระทำการใดๆ อันเป็นการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน และกรณีของ GPSC ซึ่งเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ GLOW จึงเป็นการรวมกิจการ เข้าเงื่อนไขของการที่ผู้รับใบอนุญาตรายหนึ่งเข้าครอบงำผู้รับอนุญาตอีก รายหนึ่งซึ่งไม่สามารถทำได้ เว้นแต่จะขออนุญาตต่อ กกพ. เพื่อให้พิจารณาเหตุผล และความจำเป็นที่เพียงพอ หรือเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือผู้ใช้พลังงาน

“กกพ. เชื่อมั่นว่า การพิจารณาและมีมติดังกล่าว ได้ยึดมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุน แนวทางการค้าเสรีอย่างเป็นธรรม สร้างบรรยากาศที่ดีต่อการลงทุนทั้งภายในประเทศ และการลงทุนจากต่างประเทศ” นางสาวนฤภัทร

ก่อนหน้านี้ กกพ. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มองค์กรธุรกิจ นักธุรกิจ ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งนักการเมือง และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการรวมกิจการดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือต่อ กกพ. เพื่อให้พิจารณาในประเด็นการผูกขาดธุรกิจ และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ได้รับบริการพลังงาน เพื่อให้ทบทวนและพิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ

www.mitihoon.com