มิติหุ้น – PTTEP ปี 62 วางเป้าปริมาณการผลิต 320,000 บาร์เรลต่อวัน จากการรับรู้แหลงบงกชเต็มปี เพิ่มกำลังการผลิตแหล่งเอส1 10% ปีนี้ยอดขายตามเป้า 310,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมเล็งเจาะหลุมสำรวจเพิ่ม 9 หลุม เตรียมประกาศลงทุนขั้นสุดท้าย 3 โครงการ ลุ้นประมูล 4 โครงการ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP โดยนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า สำหรับปี 62 บริษัทตั้งเป้าปริมาณการขายปิโตรเลียมที่ 320,000 บาร์เรลต่อวันจากการรับรู้กำลังการผลิตเต็มปีของแหล่งบงกชที่ PTTEP ซื้อหุ้นจากกลุ่มบริษัทเชลล์ ทำให้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 66.6667% ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียม
นอกจากนี้ จะเพิ่มกำลังการผลิตในแหล่งเอส1 อีก 10% เป็น 30,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมผลิตที่ 27,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบไว้ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ ในปี 62 ยังมีแผนเจาะหลุมสำรวจเพิ่ม 9 หลุมในแหล่งประเทศเมียนมา และมาเลเซีย จากที่ปีนี้เจาะหลุมสำรวจเพียง 1 หลุม เนื่องจากประเมินแล้วว่าราคาน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีต้นทุนที่เหมาะสม โดยคาดว่าต้นทุนการผลิตในปีหน้าอาจจะสูงขึ้นในระดับ 31-32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปีนี้จะรักษาต้นทุนต่อหน่วยให้อยู่ในระดับ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะเดียวกันในปี 62 คาดว่าจะสามารถประกาศลงทุนขั้นสุดท้ายได้ 3 โครงการประกอบด้วย แหล่งผลิตในประเทศโมซัมบิกที่ PTTEP ถือหุ้นในสัดส่วน 8.5% โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิเบอร์ราเคซ และโครงการเวียดนาม บี และ 48/95 ส่วนโครงการแหล่งอุบลนั้นอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มบริษัทเชฟร่อนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โครงการนี้ว่าจะมีความพร้อมในการลงทุนเมื่อไหร่
สำหรับความคืบหน้าการยื่นประมูลแหล่งผลิตปิโตรเลียมในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแหล่งผลิตในประเทศมาเลเซียคาดว่าจะทราบผลประมูลต้นปี 62 ส่วนการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ คาดว่าจะทราบผลในเดือน ธ.ค. 61 โดยบริษัทก็มีความมั่นใจว่าจะชนะการประมูลทั้ง 2 แหล่ง เนื่องจากได้เสนอผลประโยชน์สูงสุดให้กับรัฐ และมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองการผลิต PTTEP อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ (M&A) 2 แหล่งในพื้นที่กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในพื้นกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเป็นแหล่งผลิตที่มีมูลค่าการลงทุนราว 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อแห่ง นอกจากนี้ PTTEP อยู่ระหว่างดำเนินการปรับแผนลงทุน 5 ปี (62-66) เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมัน และภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะสามารถประกาศแผนลงทุนได้ในเดือน ม.ค. 62
