กรุงศรี คอนซูเมอร์ ได้ช่องขยายฐาน เปิดทางสมาชิก ลาล่ามูฟ เข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น

126

มิติหุ้น – กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผนึก กรุงศรี ออโต้ ขยายฐานลูกค้า เปิดโอกาสสมาชิก “ลาล่ามูฟ ประเทศไทย” ได้เข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้เอกสารทางการเงินในการพิจารณาสินเชื่อ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และกรุงศรี ออโต้ ได้ร่วมมือกับ “ลาล่ามูฟ ประเทศไทย” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นขนส่งสินค้าแบบ On Demand ของไทย

โดยบริษัทได้เพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ในเครือข่ายของลาล่ามูฟในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินได้มากนัก เพราะไม่มีเอกสารทางการเงินที่ใช้ในการประกอบการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันทางการเงินต่างๆ และ อีกทางหนึ่งยังถือเป็นการขยายฐานลูกค้าของกรุงศรี คอนซูเมอร์ด้วย

สำหรับในช่วงแรก กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะให้บริการสินเชื่อกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเครือข่ายของลาล่ามูฟ โดยจะคัดกลุ่มผู้ที่มีผลงานดีเยี่ยมก่อน (กลุ่ม Super Star และ Star) ซึ่งเฟสแรกในเดือน ธ.ค. นี้ จะพิจารณาให้สินเชื่อเพื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์จากกรุงศรี ออโต้ และสินเชื่อบุคคลจากเฟิร์สช้อยส์ในเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ ซึ่งมีจำนวนราว 5,000-6,000 คน จากสมาชิกทั้งหมดของลาล่ามูฟที่ประมาณ 80,000 คน

โดยมีเกณฑ์บังคับจะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้เฉลี่ย 30,000 บาทต่อเดือน และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่ลาล่ามูฟกำหนด จากนั้นกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยการเชื่อมต่อข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นของลาล่ามูฟ เช่น ข้อมูลการรับงานของผู้ขับขี่ จำนวนรายได้ที่ผู้ขับขี่ได้รับจริงในแต่ละเดือน มาประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อ ทั้งนี้ นอกจากสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อผ่อนชำระ และบัตรเครดิตแล้ว ในอนาคตกรุงศรี คอนซูเมอร์ยังจะต่อยอดเฟสต่อไป โดยจะทำเรื่องเกี่ยวกับเงินฝาก การลงทุน และการเชื่อมแอปพลิเคชั่นของทั้ง 2 ร่วมกันด้วย

“ในการร่วมมือระหว่างกันครั้งนี้ ทางกรุงศรี คอนซูเมอร์ ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะปล่อยสินเชื่อได้เท่าไหร่ เพราะเราจะปล่อยตามความต้องการของผู้ใช้ โดยไม่ได้กำหนดว่าจะปล่อยตามวงเงินกี่เท่าของรายได้เหมือนกับสินเชื่ออื่นๆ แต่เบื้องต้นจะไม่เกินตามที่แบงก์ชาติกำหนด ที่ 1.5 เท่าของรายได้ ส่วนการชำระคืนก็ยังเป็นตามขั้นต่ำ 5% ของวงเงิน ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ได้รับสินเชื่อเริ่มต้นใช้ที่ระดับ 28% แต่ในอนาคตหากลูกค้ามีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ดีก็จะพิจารณาปรับลงตามความเหมาะสม” นายฐากรกล่าว