“ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 2561 รวย 7.7 หมื่นลบ.

49

         มิติหุ้น – แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2561 “หมอเสริฐ” น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของอาณาจักรโรงพยาบาลกรุงเทพ ครองบัลลังก์ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ถือหุ้นโรงพยาบาลกรุงเทพ-นนทเวช-บางกอกแอร์เวย์ส รวมมูลค่า 7.7 หมื่นล้านบาท ตามด้วย อันดับ 2 เศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ “เสี่ยกลาง” สารัชถ์ รัตนาวะดี กอดหุ้นกัลฟ์รวย 5.8 หมื่นล้านบาท อันดับ 3 สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ EA/EE รวย 4.2 หมื่นล้านบาท  ด้านตระกูลปราสาททองโอสถ ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 6 เครือญาติสร้างสถิติใหม่ถือครองหุ้นทะลุ 1 แสนล้านบาท

 

ปีนี้เป็นปีที่ 25 แล้วที่ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย  ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2561

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2561 ปรากฏว่า น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2561 ซึ่งเป็นการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 6 แล้ว  โดยปีนี้ หมอเสริฐถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 77,129.32 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 13,602.02 ล้านบาท หรือ 21.41%

หุ้นที่หมอเสริฐถือครองมี 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 18.47% รวมมูลค่า 73,786.86 ล้านบาท บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 10.61% มูลค่า 2,985.22 ล้านบาท บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% มูลค่า 75.48 ล้านบาท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) 24.60% มูลค่า 281.75 ล้านบาท

          เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ปีนี้ได้ต้อนรับ เสี่ยกลาง สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF เข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรกจากการนำหุ้น GULF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560  โดยในวันแรกของการซื้อขาย ราคาหุ้น GULF พุ่งไปแตะสูงสุดที่ 59.50 บาท จากราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 45 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 14.50 บาท หรือ 32.22%  หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 76.25 บาท ณ 30 กันยายน 2561 หรือเพิ่มขึ้นถึง 69.44%

ส่งผลให้สารัชถ์ที่ถือหุ้น GULF ในสัดส่วน 35.44% มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 57,645 ล้านบาท   สูงเป็นอันดับ 2 ของเศรษฐีหุ้นไทยปี 2561  สำหรับหุ้น GULF ถือเป็นมูลค่าหุ้น IPO ที่สูงสุดที่สุดในรอบ 11 ปี โดยมีมูลค่าเกือบ 24,000 หมื่นล้านบาท และได้รับรางวัล Best Deal of the Year Awards จากงาน SET Awards 2018 อีกด้วย

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  ซึ่งยังคงรักษาตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ไว้ได้อีกปีหนึ่ง โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 42,209.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,940.11 ล้านบาท หรือ 26.87%  เนื่องจากราคาหุ้น EA ที่สมโภชน์ถือในสัดส่วน 23.44% ปรับตัวสูงขึ้น 10 บาท หรือ 26.14% คิดเป็นมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 42,191.56 ล้านบาท และเมื่อรวมกับหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) ในสัดส่วน 0.92% มูลค่า 17.85 ล้านบาท ทำให้มูลค่าความมั่งคั่งของสมโภชน์ในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 8 พันล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4  ได้แก่  ชูชาติ เพ็ชรอำไพ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) หรือชื่อเดิมคือเมืองไทยลิสซิ่ง  โดยก้าวขึ้นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 35,392.22 ล้านบาท รวยขึ้น 9,664.53 ล้านบาท หรือ 37.56%  หุ้นที่ชูชาติถือครอง นอกจาก MTC ในสัดส่วน 33.96% มูลค่า 34,742.72 ล้านบาท แล้วยังถือหุ้น บมจ.เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท (FN)  บมจ.อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอ (ITEL)  บมจ.โซลาร์ตรอน (SOLAR)  บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC)  ซึ่งถือต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และปีนี้ยังถือหุ้นเพิ่มใน บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) และ บมจ. พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) อีกด้วย

ส่วน ดาวนภา เพชรอำไพ ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 จากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.96% มูลค่า 34,740 ล้านบาท รวยขึ้น 9,360 ล้านบาท หรือ 36.88%

          เศรษฐีหุ้นอันดับ 6  ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ขยับขึ้นมาจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 32,900.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,580.30 ล้านบาท หรือ 16.17% ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 23.93% มูลค่า 32,890 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 10.35 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์  นักลงทุนรายใหญ่ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ร่วงจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว  แม้ว่าอันดับเศรษฐีหุ้นของนิติจะลดลงในปีนี้ แต่มูลค่าความมั่งคั่งของพอร์ตการลงทุนก็ยังเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้น 10 บริษัทมูลค่ารวม 31,964.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,066.86 ล้านบาท หรือ 10.61%

          เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ร่วงจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่ารวม 28,919.28 ล้านบาท ลดลง 15,163.65 ล้านบาท หรือ 34.40%                             ความมั่งคั่งของพิชญ์ที่ลดลงในปีนี้ เนื่องจากได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้น JAS เหลือ 55.80% จาก 66.13% เมื่อปีที่แล้ว หรือลดลง 10.33% รวมมูลค่า 23,898.62 ล้านบาท และลดการถือหุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ลง 6% คงเหลือหุ้นที่ถือครอง 64.20% รวมมูลค่า 5,080.67 ล้านบาท นอกจากนี้ราคาหุ้นของทั้ง 2 แห่งก็ปรับลดลงจากปีก่อนด้วย

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่   คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ในปีนี้ร่วงลงจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้นที่คีรีถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 28,372 ล้านบาท ลดลง 518.44 ล้านบาท หรือ 1.79%  ประกอบด้วย หุ้น BTS ในสัดส่วน 24.41% มูลค่า 26,887.83 ล้านบาท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) 1.58% มูลค่า 1,109.61 ล้านบาท บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ( VGI) 0.55% มูลค่า 374.55 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นหุ้นอันดับ 10 ได้แก่  ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PSH) ร่วงจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 28,011.68 ล้านบาท ลดลง 3,025.71 ล้านบาท หรือ 9.75%   เนื่องจากหุ้น PSH ที่ทองมาถือในสัดส่วน 60.04% ราคาลดลงไป 9.75% รวมมูลค่า 27,857.01 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังถือหุ้น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) อีก 0.96% มูลค่า 154.67 ล้านบาท