CPALL – มีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว

366

นักวิเคราะห์ของทางหลักทรัพย์กรุงศรีได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์กับทางผู้บริหารของทาง CPALL โดยเรามีมุมมองเชิงกลางถึงบวก โดยมีประเด็นเด่นอยู่ที่การขยายธุรกิจในกัมพูชา และลาว เรื่องข้อตกลง Master Franchise ที่จะเปิดดำเนินการร้าน 7-Eleven เปิดเผยว่าข้อตกลงน่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2Q19 และกลยุทธ์การขยายธุรกิจจะเป็น แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่ง CPALL จะใช้ประโยชน์จากศูนย์กระจายสินค้าในบุรีรัมย์ และขอนแก่นเพื่อสนับสนุนกิจการในกัมพูชา และลาวตามลำดับ เราเชื่อว่าผลขาดทุนในช่วงต้นน่าจะน้อยมาก

ทั้งนี้ สัดส่วน CVS coverage ในประเทศไทยอยู่ที่ 4.8k คน/ร้าน ในขณะที่ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.1k คน/ร้าน เราเชื่อว่ากัมพูชา และลาวน่าจะรองรับได้ประมาณ 5,000 ร้าน โดยอิงจากสัดส่วนที่ 5.0k คน/ร้าน และจำนวนประชากร 24 ล้านคน (กัมพูชา 17 ล้านคน และ ลาว 7 ล้านคน) จากข้อมูลที่เรามี กัมพูชามีร้านสะดวกซื้ออยู่ 57 ร้าน (ส่วนใหญ่อยู่ในพนมเปญ, Circle K มี 20 ร้าน) ในขณะที่ลาวมี 67 ร้าน (M-Point Mart (Mini Big-C) เป็นเจ้าใหญ่สุดที่มีจำนวน 42 ร้าน) ซึ่งชี้ว่าการลงทุนในสองประเทศนี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกได้ในระยะยาว เนื่องจากการแข่งขันต่ำ

อีกประเด็นนึงที่เรามองว่ามีผลเชิงบวกโดยตรงกับ CPALL คือจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัวขึ้น และจะช่วยหนุน SSSG ปี FY19F โดย CPALL ยังคงเป้าหมายที่จะเปิดร้านใหม่อีก 700 สาขา/ปี และมีแผนจะปรับปรุงร้านที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว โดยเปิดในรูปแบบที่ใหญ่ขึ้น และมีที่จอดรถเพื่อดึงดูดให้มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น และยอดใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ พรรคการเมืองส่วนใหญ่รณรงค์หาเสียงด้วยนโยบายที่จะกระตุ้นกำลังซื้อของทั้งภาคเกษตร และนอกภาคเกษตร ซึ่งหากมีการนำมาปฏิบัติจริงก็จะช่วยหนุน PCE และยอดค้าปลีก และเนื่องจากยอด SSSG QTD เป็นบวกอยู่ที่ 3% ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มสมมติฐาน SSSG ปี FY19-21F เป็นปีละ 3.5% แต่ยังคงสมมติฐานอัตราการเติบโตของ GPM ทั้งกลุ่มไว้ที่ +30bps เป็น 22.6% ในปี FY19F และ +20bps ในปี FY20-21F อย่างไรก็ตาม เราได้รวมผลที่เกิดจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว 809 ล้านบาทสำหรับการจ่ายค่าชดเชยพนักงานตามเกณฑ์ใหม่ ซึ่งจะทำให้กำไรในปี FY19F ลดลงจากเดิม 2.5% แต่เราคาดว่ากำไรปี FY19F น่าจะโตได้ 9% yoy

เราประเมินราคาเป้าหมายของ CPALL โดยใช้วิธี DCF ใช้สมมติฐาน WACC ที่ 8.3% และ LTG ที่ 3.5% คิดเป็น P/E ปี FY19F ที่ 36x เท่ากับค่าเฉลี่ยหกปีย้อนหลัง +1.0 S.D. เรามองว่าเมื่อมีการประกาศหมุดหมายในต่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้วก็น่าจะทำให้มีการ re-rate หุ้น CPALL เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มระยะยาวของ CPALL จากรูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่งของร้านสะดวกซื้อ

เราคาดว่าการจับจ่ายใช้สอยหลังการเลือกตั้ง, มาตรการด้านการคลัง, และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยกระตุ้นยอดค้าปลีกในระยะสั้น หุ้น CPALL คิดเป็น PER ปี FY19F ที่ ที่ 30.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยหกปีย้อนหลัง -0.5 S.D. ซึ่งเรามองว่าเป็นระดับที่เหมาะที่จะเข้าซื้อสะสม

โดยบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน)