TOP ผลงานไตรมาส1/62 ฉายแววเด่น มีลุ้นฟันกำไรสต๊อกน้ำมัน

142

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ผู้ประกอบการโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยนายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 ของบริษัทจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาสนี้จะเฉลี่ยราว 64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบารเรล สูงกว่าราคาน้ำมันดิบในไตรมาส4/61ที่ 57 ดอลลาร์หรัฐต่อบาร์เรล

สำหรับความคืบหน้าโครงการพลังงานสะอาด(CFP) มูลค่า 4,719 ล้านดอลลาร์สหรัฐในขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำแนฟทาที่ได้จากโครงการ CFP รวมทั้งสิ้น 1 ล้านตันต่อปีมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทำปิโตรเคมี โดยไทยออยล์พิจารณาว่าปริมาณแนฟทาเหลือเพียงพอที่จะดำเนินการโครงการเอง หรือร่วมทุนกับบริษัทในเครือปตท. อาทิ บมจ.พีทีที โกลบอลเคมิคอล หรือ PTTGC และบมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้

อย่างไรก็ตาม โครงการ CFP จะทำให้ TOP มีกำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวันเป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นได้ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน ส่วนเบนซินไม่ได้ผลิตเพิ่มขึ้น จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเทรนด์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และสามารถส่งออกน้ำมันดีเซลที่เกินความต้องการใช้ได้ เนื่องจากประเทศอาเซียนเป็นประเทศนำเข้าพลังงาน

ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการ CFP อยู่ระหว่างการออกแบบวิศวกรรม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมิ.ย.นี้ กำหนดแล้วเสร็จในปี 65 ส่วนแหล่งเงินทุนโครงการ CFP มาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ 7 หมื่นล้านบาท และออกบอนด์อีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3 หมื่นกว่าล้านบาทรวมเป็น 1แสนล้านบาท และบริษัทฯยังมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา(EBITDA)ปีละ 700-800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อหักเงินปันผลและภาษีเหลือปีละ 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงเพียงพอต่อการลงทุน