น่าจะยังผันผวนต่ออีกระยะ ย่อเก็บของต่อ

134

               สถานการณ์การเมืองไทยน่าจะยังเป็นตัวแปร สำคัญสำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 – 2 เดือนนี้ จนถึงวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ออกมาแต่ละวันอาจทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเกิดขึ้นได้ รวมทั้งข้อมูลข่าวสารเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจโลก ของประเทศหลักต่างๆ (สหรัฐฯ, จีน, ยุโรป) น่าจะเป็นอีกประเด็นที่ทำให้เกิดความผันผวนได้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าหลังเดือน พ.ค. สถานการณ์ ต่างๆน่าจะคลี่คลายได้ ไม่ว่าจะเป็นความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลไทย, ประเด็นข่าวเรื่องสงครมการค้า, ประเด็นเรื่อง Brexit, และอาจมีความหวังเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน และรวมถึงการใช้นโยบายการเงินของ Fed ในช่วง 2H62 นอกจากนี้ เราประเมินแม้ว่า EPS ของ SET index ถูกปรับลดประมาณการลงมามากตั้งแต่ต้นปี แต่เชื่อว่า Downside ของการปรับลดประมาณการมีไม่มากแล้ว (เว้นกรณี เศรษฐกิจโลกชะลอตัวแรงกว่าคาด หรือ Recession)

ประเมิน SET index สัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ แนวรับ 1625 จุด / แนวต้าน 1655 จุด แนะนำ “ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว” และอาจพิจารณาแบ่งพอร์ตเก็งกำไรตาม (Follow buy) ในกรณีที่ SET index ทะลุแนวต้าน 1655 จุดขึ้นมาได้ โดยประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1680 จุด และอาจพิจารณาชะลอการลงทุนกรณีที่ SET index หลุดแนวรับสำคัญ 1625 จุด โดยประเมินแนวรับถัดไป 1600 จุด

ดังนั้นในสถานการณ์ที่ตลาดผันผวนช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค. เราแนะนำ สะสมหุ้นพื้นฐานที่ยัง Laggard และหาจังหวะขายทำกำไรหุ้นที่ Outperform ขึ้นมา เนื่องจากมีโอกาสที่นักลงทุนจะหมุนกลุ่มเล่น หุ้นที่ Laggard และน่าสนใจเช่น กลุ่มการบริโภคในประเทศ PLANB (ราคาหุ้นจะ Sideway แคบบริเวณราคา PP ที่ 6.4 บาท จนกว่าการ PP จะแล้วเสร็จ), RS, ROBINS / หุ้น Commodity เช่น PTTEP, TOP, SGP / หุ้นกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น CPF, TFG เป็นต้น