5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

259

อันดับที่ 1 ILM เตรียมขาย IPO จำนวนไม่เกิน 105 ล้านบาท พาร์ 5 บาท เข้ากระดาน SET ช่วงไตรมาส 3/62 นำเงินชำระหนี้ – ขยายธุรกิจ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  หรือ ILM โดย นายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) และการเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ของ ILM คาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3/62  โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ไปใช้ขยายสาขาร้าน Index Living Mall ขยายสินค้าเฟอร์นิเจอร์สั่งตัด Younique ขยายร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก โครงการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานและโครงการอื่นๆ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และคืนชำระหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน 2.52 พันล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 505 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (PAR) หุ้นละ 5 บาท ซึ่ง

อันดับที่ 2 อลิอันซ์ อยุธยา เปิดผลประกอบการไตรมาส 1 เติบโตต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เร่งเดินหน้าพิชิตเป้า 3.3 หมื่นล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดยนายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปี 2562 ตลาดประกันมีภาวะชะลอตัวจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจซึ่งส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง  อย่างไรก็ตาม อลิอันซ์ อยุธยา ยังสามารถโชว์ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 7.9 พันล้านบาท  โดยช่องทางตัวแทนยังคงเป็นช่องทางสำคัญทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมียอดเบี้ยประกันภัยรับรวมจากช่องทางนี้ 3.1 พันล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์  2.4 พันล้านบาท และช่องทางขายตรง ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาด ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 1.2 พันล้านบาท  ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรายปี เติบโต 6 % อยู่ที่  1,350 ล้านบาท  มาจากช่องทางตัวแทน 463 ล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์  250 ล้านบาท และ ช่องทางขายตรง 510 ล้านบาท

อันดับที่ 3 JASI Fรอซื้อสินทรัพย์ใหม่ลดแรงกดดันต่อราคาหน่วยลงทุน ชูจุดเด่นให้ผลตอบแทนสูง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF อยู่ระหว่างรอซื้อสินทรัพย์ใหม่ ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อราคาหน่วยลงทุน โดยนายกิตติสร พฤติภัทร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้ฐานด้านหลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ราคาหน่วยลงทุน JASIF ถูกกดดันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเข้าซื้อทรัพย์สินใหม่ ซึ่งเลื่อนมา 2 ปีแล้ว แต่คาดว่าเงื่อนไขหลักๆทั้งหมดจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และ JASIF จะได้ประโยชน์หลักๆ 3 เรื่องหากเข้าซื้อทรัพย์สินสำเร็จ  โดยมองว่า JASIF จะได้ขยายะระยะเวลาสัญญาเช่าในปัจจุบันออกไปจนถึงปี 2575 เนื่องจากสัญญาเช่าปัจจุบันระหว่าง JASIF กับ JAS จะสิ้นสุดในปี 2569 ทำให้ตลาดกังวลว่าจะมีการขยายระยะเวลาสัญญาเช่าออกไปหรือไม่ และถ้าขยายระยะเวลาสัญญาเช่า จะมีการให้ส่วนลดค่าเช่ามากหรือไม่

อันดับที่ 4 SENA เตรียมรวม 6 โครงการ รวม 394.40 กิโลวัตต์ ยื่นสิทธิ์ร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชน รุกธุรกิจพลังงานเต็มสูบ ดันรายได้ปีนี้ 600 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯคาดยอดโอนปีนี้โต 15-20%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน โดยนางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมที่จะยื่นขอสิทธิ์ขายไฟฟ้าเข้าระบบผ่านโครงการโซลาร์ภาคประชาชนให้กับลูกบ้านจำนวน 6 โครงการกำลังการผลิตรวม 394.40 กิโลวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทเตรียมรุกธุรกิจพลังงานมากขึ้นโดย บริษัทเสนาโซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตจากโซลาร์ฟาร์มที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 24 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือราว 20 เมกะวัตต์ คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 30 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการ โซลาร์รูฟท็อปในรูปแบบ Private PPA คาดว่าใช้เงินลงทุน 900 ล้านบาท คาดว่า COD ได้ครบในปีนี้

อันดับที่ 5 UNIQ วิ่งแตะ 12.20 บ. นิวไฮในรอบ 10 เดือน คาด Q2/62 กำไรโต 18% ลุ้นชิงงานประมูล 2-3 แสนล้าน ตุน Backlog ไว้แล้ว 2.8 หมื่นลบ. โบรกฯ แนะซื้อ เป้า 15.40 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ UNIQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขึ้นมาแตะระดับ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.39% ในวันนี้ ถือว่าทำนิวไฮในรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่ ก.ย.2561 ด้านโดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/62 ของ UNIQ คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตขึ้นประมาณ 18% เทียบกับช่วงไตรมาส 1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากยอดงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ 2.8 หมื่นล้านบาท คาดว่ารับรู้ในปีนี้ประมาณ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท  โดยคาดว่าปี 62 รายได้รวมเติบโต 8-10%