ACG เคาะราคา IPO 1.44 บ.ต่อหุ้น จองซื้อ 19-21 มิ.ย. พร้อมเทรด mai 27 มิ.ย.นี้ ลุยขยายสาขาอีก 6 แห่ง

496

มิติหุ้น – ACG เคาะราคา IPO 1.44 บ.ต่อหุ้น จองซื้อ 19-21 มิ.ย. พร้อมเทรด mai 27 มิ.ย.นี้ ลุยขยายสาขาอีก 6 แห่ง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง หรือ ACG โดยนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ACG เผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามาญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 156 ล้านหุ้น โดยมีราคาเสนอขาย 1.44 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท โดยจะเปิดจองซื้อวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ คาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (หมวดยานยนต์)

สำหรับการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้  บริษัทได้แต่งตั้ง บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย 5 แห่ง ได้แก่ บล.โกลเบล็ก, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.เคทีบี (ประเทศไทย), บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และ บล.ไอร่า

“การกำหนดขายราคาไอพีโอ 1.44 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน คิดเป็น P/E เท่ากับ 18.70 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ไตรมาส 2/61 ถึงไตรมาส 1/62 (4 ไตรมาสย้อนหลัง) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 46.37 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเท่ากับ 600 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.077 บาท ทั้งนี้ ไม่มีบริษัทจดทะเบียนประกอบธุรกิจใกล้เคียง จึงเทียบกับ P/E ของตลาดหลักทรัพย์ mai เฉลี่ยในช่วงระยะเวลา 3 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 13 มี..ค. ถึง 12 มิ.ย.62 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 48.26 เท่า” นายวิชา กล่าว

สำหรับผลประกอบการบริษัทในช่วง 3 ปี (59-61) ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิย้อนหลังอยู่ที่ 8.62 ล้านบาท, 21.33 ล้านบาท และ 27.41 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ  15.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  18.63 ล้านบาท หรือเติบโต 682% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACG กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปใช้ขยายสาขาอีก 6 แห่ง ให้ครบทั่วไทยตามแผนในปี 65 ซึ่งจะทำให้มีสาขาและศูนย์บริการรวมทั้งสิ้น 15 สาขา

“การขยายสาขาไปยังภูมิภาคต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น สร้างโอกาสในการเติบโตให้กับกลุ่ม ACG ในฐานะดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ของฮอนด้า ทำให้ฐานที่มาของรายได้และกำไรมากขึ้นตามปริมาณการขายรถยนต์ที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งจากรายได้จากการขาย งานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอะไหล่ รวมไปถึงรายได้ค่านายหน้าจากการเสนอบริการสินเชื่อเช่าซื้อและประกันภัยรถยนต์ นอกเหนือจากรายได้จากการจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง ซึ่งเป็นรายได้หลัก” นายภานุมาศ กล่าว

www.mitihoon.com