ECF ได้ฤกษ์จ่ายไฟเมียนมา กางโรดแมปกำไรโตสนั่น (21/06/62)

521

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค หรือ ECF โดย “นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตโดดเด่น เพราะวันที่ 27 มิ.ย.นี้ “โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มินบู ประเทศเมียนมา” เฟส 1 ขนาด 50 MW จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) อย่างเป็นทางการ ซึ่งโครงการนี้ ECF ลงทุนผ่านบริษัทย่อย อย่าง “บจ อีซีเอฟ พาวเวอร์ หรือ ECF-Power” เข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าดังกล่าวในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด

บุ๊คกำไรโรงไฟฟ้าเมียนมา

ดังนั้นนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/62 เป็นต้นไป บริษัทจะบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 1 ขนาด 50 MWเข้ามา หรือ มีส่วนแบ่งกำไรเฉลี่ย 20 ล้านบาท/ไตรมาส  ทั้งนี้จะเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบูเฟสที่ 2,3,4 (50MW, 50MW, 70 MW) พร้อมกันทันที เบื้องต้นคาดว่าโรงไฟฟ้าทั้ง 4 เฟส รวม 220 MW จะ COD ครบภายในปี 64 โดยจะผลักดันให้สัดส่วนรายได้จาก “ธุรกิจพลังงาน” เพิ่มขึ้นสูงกว่า “ธุรกิจฟอร์นิเจอร์” ที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 90.29% ของรายได้รวม

พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป ล่าสุดบริษัทมีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหารและCODแล้ว คือ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลภาคใต้ขนาด 7.5 MW

รุกตลาดฟอร์นิเจอร์-Q2เด่น

ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายตลาด “ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์” โดยตลาดในประเทศ บริษัทจะมุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านแบรนด์ Costa ,ขยายตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติม จากปัจจุบันได้กระจายทั่วประเทศแล้วกว่า 1,500 แห่ง รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายผ่านร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำเพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ECF OUTLET บนพื้นที่โชว์รูม “แสงอุดมไลท์ติ้ง รังสิต” เปิดโชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทุกแบรนด์ ภายใต้การผลิตและจำหน่ายของบริษัท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศ และสร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า

ญี่ปุ่น-จีนป้อนดีล

ด้านตลาดต่างประเทศ มีสัญญาณการเติบโตที่ดี จากกลุ่มลูกค้าหลักในญี่ปุ่นและกลุ่มลูกค้ารายใหม่ในจีน ฟิลิปปินส์ ซึ่งมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทมีการวางแผนบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดีทั้งปี 62 ยังคงเป้ารายได้เติบโตนิวไฮไว้ที่ 10-12 % จากปีก่อน