SCN เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นGEP งบQ2สดใส–ลุยเวียดนาม  (2/07/62)

324

มิติหุ้น- SCN เผยมีแผนเพิ่มสัดส่วนหุ้นใน GEP โครงการโรงไฟฟ้ามินบู เป็น 40% หวังขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ส่งผลรับรู้กำไรโตเพิ่ม ส่วนผลงานไตรมาส 2 โตเด่นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า 30% ปูทางปีหน้าลุยตลาดอินโดฯ เวียดนาม ขายถังบรรจุก๊าซฯ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สแกน อินเตอร์ หรือ SCN ประกอบธุรกิจพลังงาน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร โดย ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า จากความสำเร็จของโครงการโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 1 ขนาด 50 MW ของ GEP ในประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา (พม่า) แล้วเสร็จและเริ่มจ่ายไฟในเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับหน่วยงานจัดหาพลังงานภายใต้กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน (EPGE) ของรัฐบาลพม่า มีกำลังการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 350,000,000 kWh ต่อปี เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้า 2 แสนครัวเรือน โดยโครงการโรงไฟฟ้ามินบูมีขนาดโครงการขนาดกำลังการผลิตทั้งสิ้น 220 เมกกะวัตต์

เล็งถือรฟฟ.มินบู 40%
ทั้งนี้หลังจากโครงการโรงไฟฟ้ามินบูเฟสแรก COD แล้ว SCN จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน GEP เป็น 40% จากเดิม  30%  ซึ่งจะส่งผลให้การรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และบริษัทจะกลายเป็นผู้ลงทุนและถือหุ้นใหญ่ใน GEP โดยได้ประเมินถึงผลตอบแทนที่จะได้รับนั้นมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน
“เราไม่ได้มองแค่ที่เมียนมาอย่างเดียวแต่ยังมีประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ ที่เป็นเป้าหมายในการขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานเพื่อสร้างโอกาสการเติบโต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาศึกษาการลงทุนในประเทศเวียดนาม และใกล้เคียงด้วย”ดร.ฤทธีกล่าว

งบไตรมาส 2 โตเพิ่ม
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 คาดเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และใกล้เคียงไตรมาส 1/62 เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรม หรือ iCNG ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตขึ้น 50% หรือ 500 ล้านบาท หรือมีปริมาณการขายที่ระดับ 5,000-6,000 ล้านบีทียูต่อวัน
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV และโครงการโซลาร์ฟาร์มมินบู ที่เมียนมา 50 เมกะวัตต์ เริ่ม COD แล้วปลายเดือน มิ.ย.62 จากกำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์ ส่วนกำลังการผลิตที่เหลือ 170 เมกะวัตต์จะทยอย COD ครบในปี 65
สำหรับภาพรวมผลประกอบการปี 62 มั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 30% รวมถึงได้ปัจจัยหนุนจากให้บริการรับจ้างอัดก๊าซสำหรับรถยนต์ให้กับ บมจ.ปตท.หรือ PTT ภายใต้สัญญาสัมปทาน 20 ปี
ทั้งนี้ ธุรกิจบริการอัดก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรม หรือ iCNG บริษัทมีแผนขยายโรงงานเพิ่มเติบตามนอกแนวเส้นทางท่อก๊าซ จากปัจจุบันมีโรงอัดก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรมอยู่ 2 แห่งส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้นบริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มในธุรกิจไฟฟ้า โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาขนายลงทุนเพิ่มเติมในเมียนมา และเวียดนาม

ลุยขายถังบรรจุก๊าซฯ
ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายถังบรรจุก๊าซนั้น ได้ลงนามในสัญญากับบริษัท SOJITZ จำกัด ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายถังบรรจุก๊าซ โดยเตรียมเข้าไปขยายตลาดในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่มีนโยบายส่งเสริมการใช้ NGV ในรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปี 63