KAMART ซุ่มดีลเทกโอเวอร์ รุกส่งออก14ประเทศโกยเงิน (8/07/62)

980

มิติหุ้น-KAMART เปิดเกมร่วมทุนต่างชาติ หวังขยายแบรนด์สร้างฐานแกร่ง จากปัจจุบันส่งออก 14 ประเทศ ส่วนงบไตรมาส 2/62 พุ่งไม่หยุด เหตุเพิ่มสายการผลิตใหม่ ดึง ‘เซเลป’ ร่วมผุดผลิตภัณฑ์ทำเงินกว่า 1,000 รายการ พร้อมโชว์กลยุทธ์เจาะร้านค้าออนไลน์ ชี้กระแสเงินสดสูง กำไรสะสม384 ล้านบาท ซุ่มศึกษาทำดีลเทกโอเวอร์ ทั้งปี 62 รายได้พุ่ง10%  

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.คาร์มาร์ท หรือ KAMART ทำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เผยว่า ปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ที่ 10% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมที่ 1.64 พันล้าบาท เพราะบริษัทจะเร่งขยายธุรกิจทุกภาคส่วน

พร้อมกันนี้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เพิ่มสายการผลิตใหม่ในกรุงเทพฯ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปรับปรุงแผนธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อาทิ การจับมือกับบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านความงาม เพื่อออกสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ จนทำให้ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์เพื่อความงามแบบครบวงจรมากกว่า 1,000 รายการ โดยปัจจัยเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารสร้างยอดขายได้มากขึ้นในทุกๆไตรมาส

งบQ2พุ่ง-ร่วมทุนรุกตปท.

ดังนั้นผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะเติบโตดีกว่าช่วงไตรมาส 2/61 ที่มีกำไรสุทธิ 41.55 ล้านบาท และรายได้รวม 365.36 ล้านบาท ส่วนกลยุทธ์ช่วงที่เหลือของปี 62 บริษัทเตรียมขยายแบรนด์ไปยังต่างประเทศ ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรเพื่อ Joint Venture และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอีก 2-3 ประเทศ คาดจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

ล่าสุดบริษัทได้ส่งออกทั้งหมด 14 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์, กัมพูชา, เวียดนาม,เมียนมาร์, จีน, ลาว, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, มาเลเซีย, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, อิรัก, สหรัญอเมริกา, ฮ่องกง, รัสเซีย และ อินเดีย โดยมีการลงทุนในรูปแบบ Joint Venture ใน 3 ประเทศ ได้แก่ จีน, เวียดนาม และ มาเลเซีย

ผนึก ‘วอลท์ ดีสนี่ย์’

พร้อมกันนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้เซ็นสัญญากับ “บจ. เดอะ วอลท์ ดีสนี่ย์” เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางให้มีความทันสมัย และเน้นการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น อาทิ ร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ได้แก่ www.karmarts.com, Instagram: Karmarts_onlineshop, Line: Karmarts_onlineshop  และร้านคู่ค้า ได้แก่ Shop@7, Lazada, Wear You Want, Robinson Online, Zalora, Weloveshopping และShopee และ Line Shop เป็นต้น

ล่าสุดคาร์มาร์ทช็อปในไทย มีทั้งหมด 66 สาขา แบ่งเป็นช็อปประเภท Standalone Shop (Retail shop) 28 สาขา และคาร์มาร์ทช็อปในพื้นที่โซนบิวตี้ฮอลล์ของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ The Mall และ Robinson อีก 32 สาขา และในห้างอีก 6 สาขา

ชี้เงินหนาลุยเทกโอเวอร์

ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนศึกษาการเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) หรือ ร่วมทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมหรือแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด คาดเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดสูง กำไรสะสม 384.92 ล้านบาท และ D/E ต่ำเพียง 0.46 เท่า ซึ่งสามารถขอวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้หากมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่