ธนาคารกรุงเทพร่วมงาน Bangkok Fintech Fair 2019 พาเหรดนวัตกรรมการเงินยุคดิจิทัลร่วมโชว์ผลงาน-พร้อมส่งกูรูร่วมวงแชร์ประสบการณ์

97

ธนาคารกรุงเทพจัดเต็มร่วมงาน Bangkok FinTech Fair 2019 ด้วยไอเดีย Co-Creating Value ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมผ่านนวัตกรรมการเงิน ระดมผลงานฟินเทคชิ้นโบว์แดงร่วมงานคึกคัก พร้อมส่งกูรูร่วมบรรยาย-เสวนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์

ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดงาน Bangkok Fintech Fair 2019 ภายใต้แนวคิด Collaboration for the Future of Finance เพื่อประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งระดับรัฐ เอกชน สถาบันการเงิน ธนาคารกลาง และผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศน์ (ecosystem) ของไทยให้เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งกิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วยการบรรยายเสวนา การจัดแสดงนวัตกรรม และการแถลงข่าว ในระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2562 ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธปท. โดยคาดว่าจะมีผู้บริหารและผู้แทนจากสถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ธนาคารกลางต่างประเทศองค์กรระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการและที่ปรึกษาด้านการเงิน เทคโนโลยี IT และกฎหมาย ตลอดจนผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 1,500 คน

นางสาวสุธีรา ศรีไพบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายเทคโนโลยี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวผ่านหลากหลายกิจกรรม นำโดยบูธกิจกรรมจัดแสดงนวัตกรรมทางการเงินของธนาคารกรุงเทพ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิด CO-CREATING VALUE ที่ต้องการสื่อถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่พร้อมเคียงข้างลูกค้า และสร้างการมีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์สังคม ด้วยการสานความรู้ความเชี่ยวชาญ เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี เพื่อก้าวเดินไปพร้อมกันอย่างมั่นใจ ภายในบูธได้นำเสนอนวัตกรรมและโครงการพัฒนาเทคโนโยลีทางการเงิน ที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับบริการทางการเงินให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย

1.)  Bangkok Bank InnoHub – FinTech Accelerator ต่อยอดพัฒนา นวัตกรรม โครงการบ่มเพาะเพื่อพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทคระดับโลก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการทางการเงินของไทย และสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายและพันธมิตรการพัฒนาระบบนิเวศน์ทางการเงินในประเทศไทย

2.)  Facial Recognition Technology – Identify Verification ยืนยัน มั่นใจ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่อาศัยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาช่วยเรียนรู้และจดจำใบหน้าเพื่อใช้ยืนยันตัวตนของลูกค้า อันเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC)

3.)  BeWallet – QR Code Payment ง่ายเวอร์ สะดวกเวอร์ บริการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่าน QR Code ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน จ่ายได้ทั้งร้านค้าในไทยและในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมไปถึงประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น

4.)  L/C on Enterprise Blockchain ปฏิวัติบริการ L/C ให้รวดเร็ว ปลอดภัย ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โครงการความร่วมมือกับกลุ่มสถาบันการเงินระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับ R3 ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการเงินระดับโลกที่ร่วมกันศึกษาและพัฒนาการนำ Blockchainมาใช้สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ โดยล่าสุดธนาคารได้เริ่มทดลองการให้บริการ L/C แก่ลูกค้าและคู่ค้าผ่านระบบใหม่นี้ที่เป็นดิจิทัลทุกขั้นตอน กระบวนการจึงง่าย ลดระยะเวลาและเอกสาร ทั้งมีความปลอดภัยสูง

5.)  KMUTT BeDigiPass รูปแบบใหม่ของบัตรนักศึกษา มิติใหม่ของบัตรนักศึกษาในรูปแบบเสมือนจริงบนสมาร์ทโฟน สามารถใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่ เช็คชื่อ จ่ายค่าอาหาร ค่าหอ และค่าเทอม สะดวก ง่าย ไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งธนาคารได้เริ่มนำร่องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

6.)  Bualuang mBanking x Rabbit LINE Pay BTS ดูยอด เติมเงิน เช็กเที่ยว ครบ จบ ในแอปเดียว นวัตกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ช่วยเชื่อมต่อแอปพลิเคชันและระบบต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้เรื่องการเงิน ใช้จ่าย และเดินทางกับรถไฟฟ้า สามารถทำได้ผ่าน Bualuang mBanking ในแอปเดียว

ภายในงาน ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทคที่ร่วมกับธนาคารในโครงการ Bangkok Bank InnoHub มาร่วมออกบูธในโซน IT & FinTech ได้แก่ AntWorks บริษัทผู้ให้บริการด้านปัญญาประดิษฐ์และระบบอัจฉริยะระดับโลก ที่สามารถแปลงข้อมูลต่างๆ ได้หลายภาษารวมถึงภาษาไทย เข้าสู่ระบบดิจิทัลเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์และค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และ Pand.ai ผู้พัฒนาระบบแชทบอตสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันให้บริการธุรกิจข้ามชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมาเลเซีย สิงคโปร ไต้หวัน และไทย ในครั้งนี้จะนำความอัจฉริยะของระบบแชทบอตรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำมาสนับสนุนการบริการทางการเงินได้ด้วย

นอกจากบูธกิจกรรมและการนำเสนอนวัตกรรมแล้ว ผู้บริหารของธนาคารยังได้รับเกียรติร่วมการบรรยายและเสวนาในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ นำโดยคุณจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ในการเสวนา ‘Collaboration for Inclusive Digital Finance: How to Make it Happen’ ร่วมกับผู้ว่าการ ธปท.

การบรรยายหัวข้อ ‘ASEAN Payment Connectivity Showcases’ โดยคุณขจรศักดิ์ มานะวิริยะกุล เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President ผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการธุรกิจส่งออกและนำเข้า ที่จะร่วมเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับ Blockchain L/C คุณธนกัญจน์ พรรณสมบูรณ์Assistant Vice President การตลาดสมาชิกบัตร ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต สายบัตรเครดิต บรรยายเกี่ยวกับ Interoperable QR และคุณพินทุวรรณ คลายเซน Vice President สายปฏิบัติการสนับสนุน ร่วมเป็นวิทยากรในวงเสวนาหัวข้อ ‘FinTech for the Evolution of Corporate Solutions’

นอกจากนี้ ในงาน Bangkok FinTech Fair 2019 ยังมีกิจกรรมการแถลงข่าวเปิดตัวองค์กรและบริการที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล โดยธนาคารได้ร่วมสนับสนุนและพัฒนา ประกอบด้วย การแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่เข้ามาทำหน้าที่พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนได้สะดวกยิ่งขึ้น และการแถลงข่าวบริการชำระเงินด้วย MyPromptQR ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ เพียงร้านค้าสแกน QR Code ของลูกค้าเพื่อรับชำระเงินตามจำนวนที่กำหนด โดยลูกค้าเพียงตรวจสอบยอดและยืนยันการชำระเงินก็สามารถทำรายการได้สมบูรณ์ สะดวก ปลอดภัย ทั้งสองฝั่ง และไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการเงินสดที่อาจเสี่ยงสูญหาย รวมถึงการจัดเตรียมเงินทอน

“งาน Bangkok FinTech Fair 2019 นับเป็นเวทีที่ดีที่ธนาคารและสถาบันการเงิน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการเงินแก่กัน อันจะนำไปสู่การร่วมกันสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน สำหรับธนาคารกรุงเทพ การพัฒนาด้านนวัตกรรมทางการเงินเพื่ออนาคต เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ธนาคารมุ่งเน้นขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาบริการธนาคารดิจิทัล เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมและจัดการการเงินได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งยังประสานความร่วมมือกับฟินเทคชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินด้วยเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้แน่ใจว่าธนาคารจะสามารถยกระดับการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าได้ตรงกับความต้องการและสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา”นางสาวสุธีรา กล่าว