GPSCควบGLOWโตระเบิด โบรกอัพเป้าใหม่ 82 บาท

425

มิติหุ้น-GPSC หลังควบรวม GLOW ถือสัดส่วน 95.25 % ดันกำลังการผลิตโตพรวดที่ 4,748 เมกะวัตต์ กูรูคาดไตรมาส 3 รับรู้เต็มๆ  ด้านซีอีโอ“ชวลิต ทิพพาวนิช”ลั่นแผนกำลังการผลิตในมือปี 62-66 แตะ 5,400 เมกะวัตต์ โบรกส่องเป้า 82 บ./หุ้น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC แกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจของกลุ่ม ปตท. โดยนายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่เปิดเผยถึงแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 62-66)ว่า บริษัทจะมีกำลังผลิตในมือเพิ่มเป็น 5,400 MW จากปัจจจุบันที่มีอยู่ 4,986 เมกะวัตต์ ภายหลังออกหุ้นเพิ่มทุน 74,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้รับส่วนหนึ่งไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น (Bridge Financing) จากสถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งได้ แก่ บมจ.ปตท. และ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล ที่บริษัทใช้ในการเข้าซื้อกิจการของ บมจ.โกลว์ พลังงาน หรือ GLOW

ทั้งนี้ภายหลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการจาก GLOW กำลังการผลิตและจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่  4,748 เมกะวัตต์แล้ว(เฉพาะ GPSC จะอยู่ที่ราว 1,500 เมกะวัตต์) จากแผนเดิมที่บริษัทได้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามาราว 3,000-4,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565  ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสเป็นไปตามเป้า โดยจากรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2562 ของ GPSC อยู่ที่ 1,081 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15 % จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนส่งผลให้กำไรงวด 6 เดือนอยู่ที่ 2,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1,973.77 ล้านบาท

Q3รับรู้กำไรGLOWเต็มๆ

ขณะที่ด้านบทวิเคราะห์ บล.แลนด์ & เฮ้าส์ ระบุว่าแนวโน้ม GPSC ช่วงครึ่งหลังปี 2562 ยังดีต่อ โดยประเมินกำไรปกติไตรมาส3/2562 จะคาดปรับขึ้นจากไตรมาสก่อน เป็นผลจาก การรับรู้กำไรเต็มไตรมาสตามสัดส่วนลงทุนที่เพิ่มเป็น 95.25% ใน GLOW (รับรู้ราว 1 เดือนในไตรมาส2/2562) ,ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าน้ำลิก1 (NL1PC) ขนาด 26 เมกะวัตต์ (ถือ 40%) เริ่มผลิตเมื่อ 1 กรกฎาคม 62 และโครงการ CUP #4 ขนาด 45 เมกะวัตต์ กำหนดเริ่มผลิตในไตรมาส3/2562

ไตรมาส4บุ๊กกำไรโรงไฟฟ้าไซยะบุรี

สำหรับไตรมาส 4/2562 คาดว่า GPSC ก็ยังมีกำไรดีต่อเนื่อง จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้า ไซยะบุรี (XPCL) 321 เมกะวัตต์ (ถือ 25%) เริ่มผลิตใน ต.ค.62 และดอกเบี้ยจ่ายลดลง ภายหลังจากเพิ่มทุนแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ขณะที่ต้นทุนก๊าซในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ก็ยังอยู่ในทิศทางขาลง อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยประเมินประเด็นการเพิ่มทุนอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น แต่ยังแนะนำ “ซื้อ” เพื่อลงทุนระยะยาว พร้อมประเมินราคาเป้าหมาย 70 บาท/หุ้น ทั้งนี้ ยังไม่รวม Synergy Benefit จากการซื้อ GLOW (ราคาเป้าหมาย 82 บ.ก่อนเพิ่มทุน)