SELIC บุ๊ก‘PMC’เต็มเหนี่ยวQ3แรง โชว์กำไรทั้งปี70ล.วิ่งชน4บ. (22/08/62)

138

มิติหุ้น ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC ผู้ผลิตและจำหน่ายกาวอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์ โดย “บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)” เผยว่า มั่นใจกำไรสุทธิจะเติบโตในทุกๆไตรมาส จากการร่วมธุรกิจของ “บจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ หรือ PMCT” ในประเทศไทย และ “บจ.เอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด หรือ PMCS” ในประเทศสิงคโปร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสติกเกอร์และผลิตภัณฑ์ฉลาก ทำให้ฐานกำไรเติบโตเป็นเท่าตัว

กำไรนิวไฮ-ดัน PMCเข้าตลท.

โดยทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิจะทำนิวไฮที่ 70 ล้านบาท ซึ่งจะมาจาก “กลุ่ม PMC” ประมาณ  60 ล้านบาท (คาด PMC มีกำไร 100 ล.หักดอกเบี้ยจ่าย 40 ล.) จากการเติบโตที่ดีของกลุ่มลูกค้าบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม ส่วนของ SELIC คาดทำกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท ตามกลุ่มกาวอุตสาหกรรมในบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัว

สำหรับจุดเด่นของ PMC คือ มีลูกค้าที่แข็งแกร่ง เพราะเป็นโรงพิมพ์รายใหญ่ที่อยู่ในนิคมฯการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร ซึ่งโรงพิมพ์เหล่านี้เป็นผู้ผลิตฉลากให้สินค้าอุปโภคบริโภค/ เครื่องดื่มชูกำลัง/ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์/ แสตมป์ 7-11 เป็นต้น ,  อุตสาหกรรมสติ๊กเกอร์มีโอกาสเร่งตัวขึ้น ตามการขยายตัวของ E-Commerce และการนำ PMC เข้าจดทะเบียนฯในอนาคตอันใกล้ เมื่อสามารถสร้าง Synergy ได้เต็มที่แล้ว ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.60-4 บาท

บิ๊กบอสชี้ครึ่งหลังโตเด่น

ด้าน “นายเอก สุวัฒนพิมพ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการตลาดสติกเกอร์ที่เติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในแถบทวีปเอเชีย  เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและการขยายตัวของ “ธุรกิจออนไลน์ช้อปปิ้ง หรือ e-commerce” ทำให้เกิดความต้องการใช้งานสติ๊กเกอร์หรือฉลากเพิ่มมากขึ้น ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัทจะเน้นขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย “ในประเทศ” จะเน้นกาวน้ำและกาวหลอมร้อน รวมถึงขยายตลาดเฟอร์นิเจอร์, ฉลากและบรรจุภัณฑ์,อาหารและเครื่องดื่ม และยานยนต์

ส่วน “ต่างประเทศ” จะขยายสู่กลุ่ม CLMV ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บังกลาเทศ และปากีสถาน จากปัจจุบันส่งออกไปกว่า 20 ประเทศ โดยปี 62 คาดสัดส่วนต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากเดิม 40%  โดยทั้งปี 62 คาดรายได้รวมจะอยู่ที่ระดับ 1.6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 599.77 ล้านบาท

ปักธงรายได้1.2พันล.

เนื่องจากจะรับรู้รายได้เต็มปีจาก “กลุ่ม PMC” ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาด อยู่ที่ 23-25% จากปีก่อนที่ระดับ 23.12% โดยบริษัทจะเน้นบริหารจัดการต้นทุนมากขึ้น ส่วนอัตรากำไรสุทธิปีนี้ประเมินขั้นต่ำอยู่ที่ 5-6% จากปีก่อนอยู่ที่ -1.82%