STEC ราคาถึงจุดน่าซื้อ กูรูฟันธงกำไรทะยานแรง(4/09/62)

526

มิติหุ้น- STEC แรงเข้าตาโบรก เป็นหุ้นรับเหมาที่ตัวเลือกดีสุดหลังมูลค่างานในมือเติบโตมโหฬารเฉียด 2 แสนล้านบาท พ่วงถือหุ้น GULF หนุนกำไรพุ่งสุดโต่ง30% แถมไม่มีภาระหนี้เงินกู้ เงินสดเต็มหน้าตักสะท้อนฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์การลงทุน แนะ “ซื้อ” เป้าหมาย 29.00 บาท

ผู้สื่อข่าวมิติหุ้น รายงาน ว่า แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) STEC ได้ตั้งเป้าหมายจะได้งานใหม่ในปี 2562 เท่ากับ 35,000 ล้านบาท ช่วยหนุน Backlog ให้เติบโตในระดับเฉียด 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะหนุนกำไรปกติปี 2562 สูงถึง 1,689 ล้านบาท เติบโต 30% หากเทียบกับปี 2561 ที่บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,616.86 ล้านบาท

“  โครงการที่ STEC จะเข้าร่วมประมูลในปีนี้คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 1 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 1 แสนล้านบาท รถไฟทางคู่เฟส 2 เกือบ 4 แสนล้านบาท ทางด่วนพระรามสาม-ดาวคะนอง 3 หมื่นล้านบาท Thai Oil Pcl จะมีการอัปเกรดโรงกลั่นจะใช้เงินลงทุนร่วม 3 แสนล้านบาท” แหล่งข่าวกล่าว

แรงเข้าตาโบรก

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น STEC ราคาเป้าหมาย 28.60 บาทต่อหุ้น เป็นตัวเลือกดีสุดเพราะ 1.เน้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 2.Backlog มาก เพิ่มความแน่นอนของรายได้ 3.มาร์จิ้นยังคุมได้ กำไรเติบโตต่อเนื่อง และ 4.ราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชี (P/B) ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีอัพไซด์ (Upside) รวมปันผล 18%

โดย STEC มี Backlog อยู่ที่ 105,000 ล้านบาท หรือ 5 เท่าของฐานรายได้ปีก่อน ทำให้ทิศทางรายได้ปี 2562 เติบโตได้ต่อเนื่องอีก 15% ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างสำคัญ ปูน และเหล็กไม่ผันผวน บริหารมาร์จิ้นได้ไม่ยาก จึงคาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น 14% แต่เนื่องจากปีก่อนมีรายการพิเศษเพิ่มขึ้น 307 ล้านบาท จากการขายเงินลงทุนและการตีมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนเพิ่มขึ้น ก็น่าจะส่งผลให้กำไรสุทธิปีนี้ลดลง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น STEC ไว้ที่ 29.00 บาท/หุ้น โดยมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้เงินกู้ ในขณะที่มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวสูง 11,600 ล้านบาท

ทั้งนี้กำไรที่ยังเด่นคาดจะได้แรงหนุนจากความคืบหน้าต่อเนื่องของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สีชมพู และ สีส้ม รวมถึงโรงไฟฟ้า GULF ทำให้ยอดรับรู้รายได้คาดจะยังสูง 7,668 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในขณะที่ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน 18% จากไตรมาสก่อนหน้า อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะทรงตัวที่ 7.6% ใกล้ไตรมาสก่อน และปีก่อน

เงินลงุทน GULFหนุนกำไร

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่ายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น STEC โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2562 ระดับ 28 บาทต่อหุ้น โดย STEC เป็นตัวเลือกที่ดีของการลงทุนจากเป็นผู้เดียวที่กำไรปี 2562 สามารถเติบโตได้ backlog secure 98% โดยมีปัจจัยบวกจากโครงการ mega project เข้ามา (2556) สะท้อนถึงความคาดหวังต่องานประมูลรัฐของตลาดมีน้อย

นอกจากนี้ในปี 2562 อาจมี upside ได้อีกหากบริษัทมีการทยอยขายเงินลงทุนในบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ออกมากลบผลกระทบสำรองประโยชน์ฯ (หากบังคับใช้)