PORT ไฟเขียวรับหุ้นเพิ่มทุนเตรียมเข้า SET รับหุ้นปันผลฟรี 10:1 ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 329 ล้าบาท  

162

มิติหุ้น- คุณเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชนหรือ PORT กล่าวว่า “ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562 มีมติเอกฉันท์ ให้บริษัทฯ จ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสด จากกำไรสะสมในอัตราในอัตราหุ้นละ 0.055 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลอัตราการจัดสรร 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ หุ้นสามัญปันผล โดยเศษของหุ้นให้จ่ายเป็นเงินสดหุ้นละ 0.05 บาท และจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.005 บาท และอนุมัติเพิ่มทุน จำนวน 29,899,720 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 298,999,981 บาท เป็นทุนจดทะเบียน จำนวน 328,899,701 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 59,799,440 หุ้น ซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อรองรับการจ่ายปันผลและปรับสิทธิวอแรนท์จากการจ่ายหุ้นปันผล

โดยล่าสุดบริษัทฯได้ปรับอัตราการใช้สิทธิวอแรนท์ PORT-W1 จากราคาใช้สิทธิเดิม 6.50 บาท เป็น 5.9091 บาท และ ปรับอัตราการใช้สิทธิจากเดิม 1:1 หน่วย/หุ้น เป็น 1: 1.09999 หน่วย/หุ้น นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการขายคลังสินค้าปลอดภาษี ให้กับ บมจ.สหไทยสตีลไพพ์ ซึ่งเป็นบุคคลเกี่ยวโยงกัน โดยได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่ารายการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ด้านกระแสเงินสดที่จะนำมาใช้หมุนเวียน เพิ่มสภาพคล่องให้กับกิจการ การนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในส่วนอื่นๆ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่อาจจะเกิดขึ้น และยังลดความเสี่ยงด้านการจัดหาผู้เช่า

คุณเสาวคุณ กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ขอขอบคุณที่ผู้ถือหุ้นในการสนับสนุนแนวทางการขยายธุรกิจของบริษัท อย่างดีเสมอมา รวมถึงแผนงานที่บริษัทฯจะย้ายไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ในปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย ลดข้อจํากัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจจะช่วยให้การซื้อขายหุ้นของบริษัทฯมีเสถียรภาพมากขึ้น  สำหรับผลประกอบการ เดือนแรกปี 2562 บริษัทฯมีรายได้รวม 782.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.92% จากรายได้รวม 753.23 ล้าน บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 56.72 ล้านบาท ลดลง 7.87 % จากกำไรสุทธิ 61.57 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชนหรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบ วงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการตั้งแต่ 1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge)  รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) 2.ธุรกิจการให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง 3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4.ธุรกิจการให้บริการ เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น

บริษัทฯ มีแผนจะขยายธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจรเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจของบริษัทโดยการลงทุนสร้างท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 ผ่านการลงทุนในบริษัท บางกอกริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างราว 18 เดือน ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการให้บริการท่าเรือได้อีกประมาณ 180,000 TEUs/ปี รวมกับความสามารถในการให้บริการเดิมของบริษัทฯและบริษัทย่อย เป็น 920,000 TEUs/ปี หรือเพิ่มขึ้นราว 24%และขยายศูนย์กระจายสินค้าต่อยอดธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการ โลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยลงทุนใน บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (BLP)เพื่อพัฒนา และบริหารโครงการ โลจิสติกส์พาร์ค หรือศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่เพียงเท่านี้เรายังมีการนำเอานวัตกรรมเข้ามาใช้ในการบริการ รับกับเทรนด์ธุรกิจยุคดิจิทัล โดยสามารถชำระค่าผ่านท่าและค่ายกตู้สินค้าผ่านระบบ QR Codeกับสหไทย เทอร์มินอล  เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้บริการที่ท่าเรือสหไทย