จับจังหวะลงทุนช่วงสั้น รอผลการเจรจาสหรัฐฯ-จีน

84

KTBST Build  Your Net Worth

SET Index เปิดทำการในวันสุดท้ายของเดือน ก.ย. ด้วยภาพตลาดที่ทรงตัวต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ว่าแรงขายจะลดลง แต่ยังซื้อก็ยังเบาบาง ตลาดหุ้นไทยปิดทำการในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ในแดนลบเล็กน้อย ที่ระดับ 1637.22 จุด -6.54 จุด (0.40%) 

ประเด็นสำคัญในเดือน ต.ค. นี้ คือการเจรจาของสหรัฐฯกับจีน ในวันที่ 10-11 ต.ค. ที่ตลาดโลกกำลังรอติดตามผลอย่างใกล้ชิด นักลงทุนในตลาดหุ้นและสินทรัพย์การเงินทั่วโลกต่างปรับพอร์ตรอรับผลเจรจาการค้า เนื่องจากผลเจรจาดังกล่าวจะมีผลต่อทิศทางตลาดค่อนข้างมาก  แม้จะมีการคาดการณ์บ้างว่าผลการเจรจาอาจเป็นลบ แต่ส่วนใหญ่ยังมองว่าน่าจะออกมาในเชิงบวก ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงระหว่างนี้มีการแกว่งตัวในกรอบแคบ และมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลง  

อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯกับจีนที่รุนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ได้สะท้อนออกมาที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ตัวเลขการส่งออก , ตัวเลขดัชนี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคอุตสาหกรรมของหลายประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยุโรป (ECB) ต้องทำการลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นหากความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐฯกับจีนยังไม่ได้ข้อยุติในการเจรจากันวันที่ 10-11 ต.ค. นี้ KTBST ยังมองว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนอยู่ต่อไป

เช่นเดียวกับประเทศไทยเอง ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ปรับลดการเติบโตของ จีดีพี ในปีนี้ลง เหลือ 2.8% จากระดับ 3.3% ปัจจัยหลักคือการส่งออกที่หดตัวลงอย่างแรง แม้จะมีมาตรการเศรษฐกิจจากรัฐบาลออกมากระตุ้นแต่คาดว่าไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก ด้วยภาพรวมและปัจจัยทางเศรษฐกิจแบบนี้ การลงทุนในหุ้นจึงมีความน่าสนใจลดลง นักลงทุนปรับพอร์ตย้ายเงินเข้าสู่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจและปลอดภัย เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โครงสร้างพื้นฐาน ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง รวมไปถึงทองคำ  

ทั้งนี้ KTBST มองว่าปัจจัยทางด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก ที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยลงทำให้ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลมีความน่าสนใจลดลงเมื่อเทียบกับทองคำ ดังนั้น “ทองคำ” จึงถูกมองว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น แม้จะเห็นราคาย่อตัวลงมาบ้างจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า แต่ยังเป็นจังหวะทยอยสะสมได้เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ส่วนการลงทุนในหุ้น  KTBST แนะนำจับจังหวะลงทุนช่วงสั้นๆ ในหุ้นที่ราคาย่อตัวลงมา รวมถึงหุ้นที่มีความปลอดภัย (safe haven) คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า , กลุ่มสื่อสาร ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

  โดย ชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

                                                               บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

www.mitihoon.com