เอส โฮเทลฯ(SHR)’ เผยราคาIPOเหมาะสม-นลท.ตอบรับดี ปีหน้าลุยปั้นโรงแรมเกาะมัลดีฟส์เพิ่ม

234
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท หรือ “SHR” บริษัทในเครือ บมจ.สิงห์ เอสเตท หรือ S ที่เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยนายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 1,437,456,000 หุ้น ที่ราคา 5.20  บาท เป็นราคาที่เหมาะสม เพราะถือเป็นหุ้น Growth Stock และนักลงทุนสถาบันให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยจะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป ในวันที่ 1-5 พ.ย.62 และคาดเข้าเทรด SET ในวันที่ 12 พ.ย.นี้

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าระดมทุนในตลาดฯ บริษัทวางแผนจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ให้กับสถาบันการเงินที่มีอยู่ราว 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุนใน Outrigger จะจ่ายหลังไอพีโอราว 5,400 ล้านบาท และที่เหลืออีกประาณ 7,000 ล้านบาท จะนำกำไรจากการดำเนินงานมาชำระคืน ซึ่งจะช่วยลดหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ลดเหลือ 0.5 เท่า จากปัจจุบัน 1.1 เท่า ส่วนเงินที่เหลือใช้รองรับการขยายธุรกิจ หรือทำดีล M&A ในโรงแรมไซส์ 150-300 ห้อง โดยบริษัทวางลบลงทุนไว้ประมาณ 5,000 – 7,000 ล้านบาท ต่อปี

ปัจจุบันทรัพย์สินของ SHR แบ่งเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1.โรงแรมที่ SHR บริหารจัดการเอง ได้แก่ โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท และโรงแรม สันติบุรี เกาะสมุย ไนประเทศไทย 2.โรงแรม Outrigger 6 แห่งใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ และสาธารณรัฐมอริเชียส ที่ SHR บริหารผ่านสัญญาบริหารจัดการโรงแรม หรือ Hotel Management Agreement ภายใต้แบรนด์ Outrigger
3.โรงแรมในสหราชอาณาจักร จำนวน 29 แห่ง ที่ SHR บริหารจัดการเองผ่าน Franchise Agreement กับแบรนด์ระดับโลก ได้แก่ แบรนด์ Mercure และ Holiday Inn ซึ่ง SHR มีสัดส่วนเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าดังกล่าว
ร้อยละ 50
4.โครงการ CROSSROADS เฟส 1 ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการบนเกาะจำนวน 3 เกาะ ในโครงการ CROSSROADS ตั้งอยู่ ณ Emboodhoo Lagoon ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยปัจจุบันโครงการ CROSSROADS เฟส 1 ได้เปิดให้บริการแล้ว ประกอบด้วยโรงแรม 2 แห่ง คือ SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton และ Hard Rock Hotel Maldives ซึ่ง SHR บริหารจัดการเองผ่าน Franchise Agreement รวมถึงศูนย์รวมการให้บริการ เพื่อการพักผ่อนและสิ่งบันเทิง ภายใต้โครงการ The Marina@CROSSROADS และยังมีเกาะที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นโรงแรมอีก 1 เกาะ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า ใช้งบลงทุน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเกาะที่ 1-2 ใช้งบลงทุนไปแล้ว 290 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 65
อย่างไรก็ดี SHR มีเป้าหมายในปี 68 จะขยายธุรกิจโรงแรมอีกกว่าเท่าตัว จากจำนวนโรงแรมและรีสอร์ท 39 แห่ง เป็น 80 แห่ง หรือคิดเป็นอัตราการเติบโดเฉลี่ย15% ต่อปี และมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นเป็น 8,000-9,000 ห้อง จากปัจจุบัน 4,647 ห้อง ซึ่งหลังจากการทำ IPO แล้ว SHR ยังคงสถานะเป็นบริษัทย่อยของ  S เช่นเดิม โดยจะยังคงป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 58.8% ใน SHR

 

www.mitihoon.com