SAWAD ปลื้มผลงานนิวไฮไตรมาส 3 กำไรทะลุพันล้าน

78

มิติหุ้น- SAWAD  ปลื้มกำไรไตรมาส 3/62  ทะลุพันล้าน ทำสถิติสูงสุดใหม่  ขณะที่มีพอร์ตลูกหนี้ 3.3 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นเฉียด 25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน  ขณะที่เอ็นพีแอลลดลงเหลือ 4.3%  ลั่นการบริหารหนี้มีประสิทธิภาพ เน้นการเจรจาและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ SAWAD เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส3/2562  บริษัทและบริษัทย่อยมีผลกำไรรวมสุทธิ 1,006.53 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 179.17 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 21.66% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 827.36 ล้านบาท

โดยมีรายได้ดอกเบี้ยงวดไตรมาส3/2562 จำนวน 1,909.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น378.15 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น24.69% เมื่อเทียบกับไตรมาส3/2561 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย1,531.78 ล้านบาท  ซึ่งก็เป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้จาก 27,029.64 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3/2561 เพิ่มขึ้นมาเป็น 33,614.44 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3/2562 หรือเพิ่มขึ้น 24.36%  ขณะที่รายได้อื่นๆ ก็ปรับเพิ่มขึ้นจาก 574.25  ล้านบาท เป็น 631.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

“กำไรในไตรมาส 3/2562 ของ SAWAD  แตะหลักพันล้าน ถือว่าเป็นการทำสถิติกำไรสูงสุดใหม่หรือ New High ซี่งก็เป็นผลมาจากการที่พอร์ตลูกหนี้เติบโตต่อเนื่อง จากนโยบายหลักของบริษัทที่มีการขยายสาขาต่อเนื่องให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ บริษัทตั้งเป้าว่าจะขยายสาขาให้ได้ จำนวน 4,200 สาขา ในปี 2563 ”นางสาวธิดา กล่าว

สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ในงวดสิ้นสุดเดือน กันยายน 2562  ก็ปรับตัวลดลงเหลือระดับ 4.31 %  จากงวดเดียวกันของปี 2561  ที่มีเอ็นพีแอลในระดับ 5.02%   การปรับลดลงของเอ็นพีแอล  เนื่องจากบริษัทมีระบบการบริหารหนี้และติดตามหนี้มีประสิทธิภาพ ขณะที่มีหนี้สูญและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 164.62 ล้านบาท   เพิ่มขึ้น 49.27 ล้านบาท  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 115.35 ล้านบาท  ซี่งเป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ

“การดูแลลูกค้าที่ผิดนัดชำระ  SAWAD จะเน้นการเจรจา และมีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกค้าทั้งหมดอยู่ในช่วงเวลาการค้างชำระสูงสุดไม่เกิน 90 วัน”นางสาวธิดา กล่าว

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานโค้งสุดท้ายของปี 2562 บริษัทก็ประเมินว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร  เนื่องจากบริษัทยังมีการขยายสาขาต่อเนื่อง และลูกค้ายังมีความต้องการใช้เงิน ทั้งในส่วนที่เติมสภาพคล่อง และส่วนที่ต้องการขยายกิจการ โดยตั้งเป้าหมายว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 20% – 30%