มิติหุ้น – บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) ประกาศงบ 9 เดือนแรกกวาดรายได้จากการให้บริการแตะ 851.21 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 33.30 ล้านบาท ด้าน CEO “ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์” เผยโค้งสุดท้ายปีนี้ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการที่ดินนิคมปิ่นทอง จำนวน 21 ไร่ หนุนศักยภาพการให้บริการลูกค้าในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้มั่นใจรายได้ทั้งปีโตตามเป้า
ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค เปิดเผยถึงผล ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 281.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.53 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนแรกปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 851.21 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 33.30 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในทิศทางที่ดี เนื่องจากการบริษัทฯมีรายได้ จากการให้บริการขนส่งทางทะเล 564.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 558.73 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากฐานลูกค้าเดิมของบริษัทฯ ที่มีการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งทางบก อยู่ที่ 237.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.46% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจการจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ 41.29 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากในช่วงต้นปีกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการบางราย ย้ายฐานการขนส่ง ทั้งนี้รายได้ของบริษัทสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 62 มีมูลค่าเท่ากับ 851.21 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีหน้า เท่ากับ 9.30 ลบ โดยลดลงเป็นอัตราร้อยละ 1.08 ซึ่งสอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของประเทศไทยในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 62 ที่ลดลง แต่โดยภาพรวมบริษัทยังคงมีการเติบโตของรายได้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จะมีการดำเนินการพัฒนาโครงการที่ดินนิคมปิ่นทอง จำนวน 21 ไร่ ที่ได้ซื้อในช่วงก่อนหน้า โดยในพื้นที่ดังกล่าวจะใช้เพื่อการรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ในช่วงต้นปี 2564 แก่ลูกค้าในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา และพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งกลุ่มลูกค้า EEC
“ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าจากประเทศจีน หันมาใช้บริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น จากปัญหาสงครามการค้า ซึ่งริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุก เพื่อรองรับลูกค้าดังกล่าวเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากการให้บริการอยู่เดิม จึงมั่นใจว่าบริษัทฯจะมีรายได้เติบโตเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และยังมีการขยายฐานการให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย เพิ่มพื้นที่ด้านลานจอด คลังเก็บสินค้า และการเพิ่มรถบรรทุกหัวลาก เป็น 85 กว่าหัวลาก และหางลาก 200 หางลาก รวมถึงการเปิดกว้าง ในการเปิดรับพันธมิตร ซึ่งจะเป็นตัวสร้างให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในอนาคต” ดร.สันติสุข กล่าว
www.mitihoon.com
