‘เซ็นทรัล รีเทล’ CRC กำหนดช่วงราคา IPO ที่ 40-43 บ. เปิดจองซื้อ 29 ม.ค.-3 ก.พ. นี้

1526
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนรวมไม่เกิน 1,860.1 ล้านหุ้น พร้อมกำหนดช่วงราคาเสนอขายที่ 40 – 43 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม ประมาณไม่เกิน 74,404 – 79,984  ล้านบาท และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น CRC ได้ในระหว่างวันที่ 29 – 31 ม.ค. และ 3 ก.พ.63 นี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกภายในเดือนกุมภาพันธ์

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กล่าวถึงความคืบหน้าแผนงานในการนำเซ็นทรัล รีเทล เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ว่า มั่นใจว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมและพร้อมที่สุดสำหรับเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จขั้นต่อไปในการเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจ จุดแข็งและกลยุทธ์การเติบโตของเซ็นทรัล รีเทล ที่จะมุ่งไปข้างหน้าสู่ New Central New Retail เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดค้าปลีกระดับโลก รวมทั้งผลตอบรับที่น่าพอใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำระดับโลก

นายญนน์ โภคทรัพย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าวเสริมว่า หุ้น CRC ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศรวม 11 ราย สนใจมาลงทุนเป็น Cornerstone Investors ของ CRC โดยมีมูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านบาทที่ราคาเสนอขายสูงสุด หรือกว่า 60% ของจำนวนหุ้น IPO ในครั้งนี้ และถือว่าเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าตกลงจองซื้อก่อนโดย Cornerstone Investors สูงที่สุดในตลาดทุนไทยเท่าที่เคยมีมา

นายปิยะ งุ่ยอัครมหาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ. เซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงสาขาต่าง ๆ อาทิ 1. การขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ 2. การขยายสาขาของไทวัสดุ  3. การขยายสาขาของบิ๊กซี/GO! ในประเทศเวียดนาม  4. การปรับปรุงสาขาต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมุ่งขยายความสำเร็จในระดับโลกอย่างมั่นคงในระยะยาว

ในส่วนของผลการดำเนินงานในปี 2561 CRC มีรายได้รวม 206,575 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 8.3 (พ.ศ. 2559 – พ.ศ. 2561) และมีกำไรสุทธิ 10,033 ล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 CRC มีรายได้รวม 159,506 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 6,298 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.1 จากรายได้รวมในช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 5,860 ล้านบาท

หุ้นสามัญของ CRC ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 1,691,000,000 หุ้น โดยแบ่งออกเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,331,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน หากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ซึ่งหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ROBINS’ ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ผ่านการแลกหุ้น (Share Swap) และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายและจัดสรรให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก และ (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Hawthorn Resources Limited (ผู้ถือหุ้นเดิม) จำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน หากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment Option หรือ Greenshoe) จำนวนไม่เกิน 169,100,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนเกี่ยวกับเสถียรภาพของราคาหุ้นในช่วง 30 วันแรกหลังหุ้นของ CRC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกของ CRC จะดำเนินการควบคู่ไปกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ROBINS เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของ ROBINS ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของ CRC ในการนี้ CRC จึงจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CRC ส่วนหนึ่งให้เป็นค่าตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นของ ROBINS ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ โดยการนำหุ้นสามัญของ ROBINS  มาขายในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งผู้ถือหุ้น ROBINS จะได้รับค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CRC แทนการชำระด้วยเงินสด (Share Swap)  โดยคำนวณจากอัตราแลกหุ้นที่ราคาเสนอซื้อเท่ากับ 66.50 บาทต่อหุ้น ROBINS 1 หุ้นกับราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CRC ที่ช่วงราคาเสนอขาย [40] – [43] บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นช่วงอัตราแลกหุ้นที่ประมาณ [1.55] ถึง [1.66] หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของ CRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิมของ ROBINS โดยกรณีที่มีเศษ จะปัดเศษทั้งหมด

ในการเสนอขายหุ้นสามัญของ CRC ในครั้งนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินและดำเนินการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น (Overallotment and Stabilizing Agent)

www.mitihoon.com