เลือกลงทุนหุ้นปันผลสูง MCS  PYLON  PSH

467

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ประเมินกลยุทธ์การลงทุน ข้อตกลงการค้าเฟส 2 ระหว่างสหรัฐกับจีน แบ่งเป็นรอบย่อย A, B, C และน่าจะกินระยะเวลานาน ถึงช่วงเลือกตั้ง ปธน. เดือน พ.ย. 2563 ทําให้น้ำหนักประเด็นดังกล่าวน้อยลง แต่ยังมีประเด็นใหม่ที่ต้องติดตามต่อ คือ การระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งหากยืดเยื้อนานและขยายวงกว้างเกินควบคุม ยิ่งกดดนภาพรวมเศรษฐกิจโลก

รวมถึงไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีสัดสวนใน GDP กว่า 20% ของ GDP ขณะเดียวกันฟันเฟืองเศรษฐกิจของไทยยังมีความเสี่ยงอื่นๆ อีกหลายปัจจัย ทั้งความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 กระทบตออการเดินหน้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และภัยแล้งที่คาดว่าปีนี้จะแล้งสุดในรอบ 40 ปี กดดันการบริโภคภาคครัวเรือน

ทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็น Downside ต่อเศรษฐกิจไทย รวมถึงประมาณการกําไรสุทธิองบริษัทจดทะเบียน ภาวะดังกล่าวอาจทำให้ ธปท. ต้องกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอีกครั้ง เดือน ม.ค. 2563 ต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อจากปี 2563 และมโอกาสขายสุทธิต่อในเดือน ก.พ. 2563 จากความเสี่ยงรอบด้าน บวกกบค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว 3.3%  ซึ่งจากสถิติในอดีตช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า เงินทุนต่างชาติมักจะไหลออกจากตลาดหุ้นไทยเสมอ หากพิจารณา Valuation ของ SET Index ณ ปัจจุบัน แม้มี Market Earning Yield Gap ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.97% ถือเป็นระดับที่สูงกว่าปกติแต่ส่วนหนึ่งเกิดจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่ปัจจุบันดัชนีซื้อขายบน P/E ที่ 16.5 เท่า ซึ่งถือวาอยู่ในระดับสูงกว่าปกติเล็กน้อยและที่สำคัฐยังมีความเสี่ยงที่หลายๆ บริษัทถูกปรับประมาณการกำไรลงจากปัจจัยแวดล้อมกดดัน  ดังนั้นช่วงที่ตลาดหุ้นไม่มีความแน่นอนสูง รวมถึงผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ แนะนําลงทุนในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งจ่ายเงินปันผลสูง MCS  PSH  PYLON