MTS ส่ง “MTS Gold Blockchain” ออมทอง ด้วย Blockchain เจ้าแรกในไทย

115

ผู้สื่อข่าวมิติหุ้นรายงานว่า นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์โลกยุคดิจิตอล MTS จึงได้เปิดตัว“MTS Gold Blockchain” ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ผสานกับการออมทองคำรายแรกในไทย ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 150 บาท โดยตั้งเป้ายอดเปิดบัญชีมากกว่า10,000 บัญชีภายในปีนี้

นอกจากนี้ยังหาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ ควบคู่การใช้AI เพื่อเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพการลงทุน

สำหรับ MTS Gold Blockchain ”ระบบสะสมเงินซื้อทองคำแท่งที่บริสุทธิ์ 96.5% ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งบริษัทเป็นรายแรกที่นำระบบ Blockchain มาใช้ในการออม และการจัดเก็บข้อมูลโดยไม่ผ่านบุคคลที่สาม เพื่อป้องกันความเสียหายด้านข้อมูล ทองคำและ การทำธุรกรรมซึ่งเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูงเทียบเท่ามาตรฐานธนาคารชั้นนำแห่งประเทศไทย

โดยนักลงทุนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 150 บาท หรือเริ่มต้นได้ด้วยน้ำหนัก 0.1 กรัม ได้ตลอดทั้งวันไม่จำกัดจำนวนครั้ง และสามารถโอนมอบทองคำในระบบให้กับสมาชิกท่านอื่นๆ ที่อยู่ระบบเดียวกันได้ ซึ่งเมื่อสะสมครบตามจำนวนที่ต้องการสามารถแลกรับเป็นทองคำในรูปแบบทองคำแท่งจริงได้ตั้งแต่ขั้นต่ำ 1 กรัม ในทุกสาขาของห้างทองแม่ทองสุก

นายณัฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในปี 2563 บริษัทยังคงร่วมมือกับพันธมิตรในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสินค้าและบริการให้มีความหลากหลายและครบครันมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาวิเคราะห์และประมวลผลสัญญาการซื้อขายสินค้าในตลาดอนุพันธ์ต่างๆ รวมไปถึงนำเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น BIG DATA มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุนให้แก่นักลงทุนไทย และเปิดโอกาสการเข้าถึงสินค้าในตลาดโลกได้อย่างหลากหลายด้วย

โดยปัจจุบัน MTS Gold มีการซื้อขายสินค้าต่างๆกับตลาดขนาดใหญ่ในต่างประเทศเช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์,เซี่ยงไฮ้ โดยมีสัญญาซื้อขายสินค้าประเภท ทองคำ น้ำมันน้ำตาลและ ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดโลหะลอนดอน (London Metal Exchange)ซึ่งมีความโดดเด่นในสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะ เพื่อเพิ่มตลาดการลงทุนให้มีความหลากหลาย

แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการทำนิวไฮในรอบ 7 ปีแล้วก็ตาม โดยมีกรอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,700 เหรียญซึ่งถือเป็นระดับเป้าหมายสำคัญต่อไปของทองคำ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผัวผวน ประกอบกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดโคโรน่า COVID-19 ที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ และมีแนวโน้มแพร่ระบาดในระดับรุนแรงขึ้น

ขณะที่ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่น และจะเห็นได้ว่าตลอดปี 2563 ราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นมาแล้วกว่า 10% ขณะที่ทองคำไทยก็ปรับขึ้นมาได้ในแล้วกว่า 19.37% และทำให้ราคาทองคำไทยมีโอกาสยืนเหนือ 25,000 บาท/บาททองคำได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับเงินบาทที่ยังคงปรับอ่อนค่าในเวลานี้นายณัฐพงศ์กล่าว

www.mitihoon.com