AOT โบรกฯ ประเมินกระทบจำกัด แม้ถูกหั่นค่าธรรมเนียมลงจอด 50% แนะสะสมมูลค่าพื้นฐาน 75.80 บ.

410

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT โดยนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมิน จาก รมว. คมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้แทนสายการบินในประเทศไทย เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือสายการบินในประเทศ เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดโรค COVID-19 โดยจะให้ AOT และกรมท่าอากาศยาน ปรับลดค่าธรรมเนียมการลงจอดและค่าจอดเครื่องบินในทุกสนามบินลง 50% ประเทศเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 63 – 31 ธ.ค. 63 ซึ่งจะเสนอเรื่องต่อที่ประชุม ครม.วันที่ 6 มี.ค. นี้

ทั้งนี้ ภาพรวมประเมินผลกระทบต่อ AOT จำกัด เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมขึ้น ลงจอดไม่ใช่รายได้หลักของบริษัท มีสัดส่วนราว 11.8% ของรายได้รวม โดยมีเที่ยวบินต่างประเทศราว 75% และในประเทศราว 25% หากตั้งสมมติฐานประเมินสัดส่วนเที่ยวบินจาก 9 ประเทศที่เสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 ตามจำนวนนักท่องเที่ยว (ญี่ปุ่น, เยอรมนี, เกาหลีใต้, จีน, มาเก๊า, ฮ่องกง, ไต้หวัน, ฝรั่งเศส, สิงคโปร์, อิตาลี และอิหร่าน) จะอยู่ที่ราว 48% เท่ากับ หากลดค่าธรรมเนียมลง 50% และมีผล 9 เดือน

โดยประเมินจะกระทบรายได้ AOT ราว 3.3% ส่วนผลกระทบต่อกำไรจะอยู่ที่ 700-800 ล้านบาท หรือราว 3.8% ของกำไร ประกอบกับ เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งเดียว จึงแทบไม่กระทบต่อมูลค่าพื้นฐานที่ 75.8 บาท โดยประเมินราคาหุ้นที่ตอบรับเชิงลบเป็นจุดที่ควรกลับเข้าสะสมลงทุนยาว

ส่วนสายการบิน คาดว่าจะได้ประโยชน์ไม่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มสายการบินที่บินระยะใกล้ จะได้ประโยชน์เฉพาะในส่วนเส้นทางบิน จีน, ฮ่องกง มาเก๊า และสิงคโปร์ เท่านั้น โดยมี AAV เป็นผู้มีสัดส่วนรายได้จากเส้นทางดังกล่าวมากสุด ประเมินราว 30%-35% ส่วน BA คาดว่าได้ประโยชน์จำกัด เนื่องจากมีเส้นทางบินจีนต่ำกว่า 5% และปัจจุบันยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว จึงเหลือเพียงเส้นทางสิงคโปร์ ขณะที่ THAI คาดว่าจะได้ประโยชน์มากสุด เพราะมีเส้นทางครอบคลุมทุกประเทศเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลบวกที่ทุกสายการบินได้ยังต่ำกว่าผลกระทบจากปริมาณผู้ใช้บริการลดลง จึงยังให้หลีกเลี่ยงลงทุนทุกสายการบิน

www.mitihoon.com