“บลจ.วี”การันตีกองตราสารหนี้ภายใต้การบริหารมีสภาพคล่องสูง จะไม่มีการปิดกองทุน

55

ผุู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ.วี) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วโลก ส่งผลให้มีการเทขายสินทรัพย์ในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงกองทุนรวมตราสารหนี้เพื่อถือครองเงินสด

บลจ.วี มองว่าเทขายสินทรัพย์ต่างๆ อย่างหนักจะเป็นภาวะช่วงระยะสั้นๆ โดยคาดว่ามาตรการของรัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งของประเทศไทยที่รับมือในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ทั้งการอัดฉีดเงินเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจและการเงินต่างๆ จะทำให้ผลกระทบต่อกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้จะลดลง
ทั้งนี้ บลจ. วี มองว่า หากพิจารณาจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของตราสารหนี้แล้ว ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดีในช่วงนี้เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาตราสารทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเริ่มปรับตัวขึ้น

ในส่วนของกองทุนรวมตราสารหนี้ภายใต้การจัดการ ของ บลจ.วี เน้นการคัดเลือกตราสารที่มีสภาพคล่องสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันกองทุนยังเปิดรับคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนตามปกติ และภายใต้แนวคิดของกลุ่มการเงิน KTBST ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นสำคัญ

ดังนั้น กองทุนจะไม่หยุดทำการซื้อขายและจะไม่มีการดำเนินการปิดกองทุนตราสารหนี้แต่อย่างใด นอกจากนี้ ด้วยการสนับสนุนของกลุ่ม KTBST และพันธมิตรของ บลจ.วี คาดว่าจะช่วยเอื้ออำนวยให้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.วี จะดำเนินไปตามปกติ

หลังจาก บลจ.วี เปิดดำเนินงานมาครบ 1 ปี ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4,389 ล้านบาท มีกองทุนรวมตราสารหนี้ จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (WE-MONEY-R) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน มีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ขนาดกองทุน 1,801 ล้านบาท ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นและตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นที่มีคุณภาพ มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A ขึ้นไป

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่าง เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด วี ไทย อิควิตี้ ชนิดไม่จ่ายปันผล (WE-THEQ-A) ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 1 เมษายน 2563 เป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยใช้กลยุทธ์ลงทุนเชิงรุกในหุ้นไทยที่มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องในราคาที่เหมาะสม (Growth Stock with Reasonable Price) ซึ่งเมื่อพิจารณาจากการปรับตัวของดัชนีหุ้นไทยที่ลงมาอยู่ในระดับที่ถูกในปัจจุบัน ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (Price to Book Value) ของ SET Index อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.14 เท่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Valuation ของหุ้นกลุ่มดังกล่าวอยู่ในระดับที่น่าสนใจ จึงเป็นจังหวะที่น่าสนใจสำหรับการจัดสรรพอร์ตในหุ้นไทย โดยแนะนำทยอยลงทุนหรือย้ายเงิน (Switching)บางส่วนเข้ามาลงทุนในกองทุน WE-THEQ-A เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นไทยที่ยังมีการเติบโตที่ดี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (“บลจ.วี”) โทรศัพท์ 02-648-1111