KTAM ปิด IPO 3,300 กว่าล้านบาท ในวันเดียว ตอกย้ำความมั่นใจของนักลงทุนในการบริหารตราสารหนี้

26

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซท์ 57 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย ชื่อย่อคือ KTFFE57 มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก / ตราสารหนี้ต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ที่เพิ่งเปิดเสนอขายเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 นั้น ได้รับกระแสตอบรับที่ดี สามารถปิดยอด IPO ได้ภายในวันเดียว เป็นเม็ดเงินกว่า 3,300 กว่าล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการบริหารสภาพคล่องของตราสารหนี้ที่ค่อยๆ กลับมา

พร้อมย้ำว่า กองทุนตราสารหนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นแต่ความเสี่ยงต่ำในสภาวะเศรษฐกิจผันผวนในปัจจุบัน ซึ่ง KTAM เองมีกลยุทธ์ในการคัดสรรพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่องสูง ผ่านการคัดกรองคุณภาพ และความแข็งแกร่งมาเป็นอย่างดี รวมถึงมีการบริหารเงินลงทุนด้วยความระมัดระวัง รอบคอบมาโดยตลอด

นางชวินดา กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จต่อเนื่องของกองทุนตราสารหนี้ ตั้งแต่กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซท์ 55 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย จนมาถึงกองทุนกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซท์ 57 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย ที่ปิด IPO ได้อย่างรวดเร็วนั้น เกิดจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลในการบริหารสภาพคล่องของกองทุนตราสารหนี้ ผนวกกับ KTAM มีความมั่นใจที่จะดำรงสภาพคล่องให้นักลงทุนต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการพิเศษที่ ธปท. ออกมานั่นเอง โดยได้กล่าวขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุน KTAM ด้วยดีมาตลอด แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมีอยู่ แต่ชาว KTAM ก็จะยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้นักลงทุนทุกท่านสามารถฝ่าวิกฤตินี้ไปได้พร้อมๆ กัน

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / การลงทุนในหน่วยลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน