JMART ลั่นกำไรปีนี้โตแกร่ง ผนึกพันธมิตรเกาหลีต่อยอดธุรกิจสินเชื่อ

283

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจมาร์ท หรือ JMART ดำเนินธุรกิจโฮลดิ้งคอมพานีลงทุนในธุรกิจค้าปลีกและการเงิน โดยนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจในปี 63 แม้จะมีปัจจัยลบเรื่องไวรัสโควิด-19 โดยยังคาดกำไรเติบโต 25% จากปีก่อน และรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน ซึ่งมาจากการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม ภายหลัง บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด (J FINTECH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย คืนเงินกู้กลับมาประมาณ 3,000 ล้านบาทในปีนี้ และวงเงินดังกล่าวบริษัทจะนำไปชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดสิ้นปีนี้ประมาณ 590 ล้านบาท โดยส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินจะทยอยลดลง จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.5% และอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E)  ลดลงเหลือ 2 เท่า จากปัจจุบัน 2.4 เท่า

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการร่วมลงทุนของ J FINTECH ดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ร่วมกับ KB Kookmin Card Co., Ltd บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตการ์ด และ สินเชื่อส่วนบุคคลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ เพื่อขยายการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อและขึดความสามารถในการแข่งขัน ต่อยอดแผน Synergy ของกลุ่มเจมาร์ท

โดยผ่านการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อย ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มทุน เป็น 1,112,851,210 บาท แบ่งเป็นออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน และ โอนหุ้นเดิมให้อีก 1 หุ้น รวมจำนวนหุ้นทั้งหมด 55,631,431 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 10 บาท และ JMART และJMT จะสละสิทธิ์การจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน J FINTECH ดังกล่าว

สำหรับแผนธุรกิจภายหลังจากการร่วมทุนครั้งนี้ J FINTECH ได้รับประโยชน์จากการนำเอาความรู้และ เทคโนโลยีทางการเงินของ KB Kookmin Card เข้ามาเสริมกลุ่มบริษัทในระยะยาว และจะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มบริษัท ทั้งกลุ่มบริษัทเจมาร์ท และ KB Kookmin Card จะได้ร่วมงาน และ ขยาย Synergy ในการดำเนินธุรกิจการเงินในประเทศไทย ซึ่งยังคงมีศักยภาพในการทำธุรกิจ ซึ่ง J FINTECH ตั้งเป้าเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของธุรกิจสินเชื่อ และบัตรเครดิตในประเทศไทยในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แผนการเข้าร่วมลงทุนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย. 63 โดย KB Kookmin Card Co., Ltd และ J FINTECH จะดำเนินการหาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อมาทดแทนเงินกู้จากบริษัทเจมาร์ท มูลค่า ณ สิ้นปี 2562 กว่า 2,700 ล้านบาท และ ภายหลังจากการเข้าร่วมทุนครั้งนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นทั้งสองจะช่วยกันหาแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงสำหรับ J FINTECH เพื่อสามารถแข่งขันได้กับอุตสาหกรรม และ สร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น

www.mitihoon.com