THCOM แจ้งกำไรไตรมาสแรก 198 ล้านบาท

52

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้นรายงานว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“THCOM” หรือ “บริษัท”) ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/2563 จำนวน 198 ล้านบาท พลิกฟื้นขึ้นอย่างมากจากผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 1/2562 และไตรมาส 4/2562 จำนวน 33 ล้านบาท และ 1,969 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้

ส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษ อาทิ ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 238 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว ในไตรมาสที่ 1/2563 บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเป็นจำนวน 105 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติ จำนวน 4 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2562 และ 271 ล้านบาทในไตรมาส 4/2562 เนื่องมาจากการลดลงของค่าเสื่อมราคาของดาวเทียม จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 รวมทั้งการด้อยค่าของดาวเทียมดวงอื่นๆในปี 2562 และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทรายงานรายได้จากการขายและการให้บริการสำหรับไตรมาส 1/2563 รวมทั้งสิ้น 965 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการลดลงของลูกค้าบรอดคาสต์ในระหว่างปี 2562 และการยุติการใช้บริการของลูกค้าบางส่วนเนื่องจากดาวเทียมไทยคม 5 ปลดระวาง โดยเมื่อเปรียบเทียบไตรมาส 4/2562 รายได้จากการขายและการให้บริการ เพิ่มขึ้น 0.9% เนื่องจากมีรายได้จากดาวเทียมบรอดแบนด์เพิ่มขึ้น

ดาวเทียมไทยคม 5 ถูกปลดระวางในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งมีลูกค้าบางส่วนที่บริษัทจำเป็นต้องยุติการให้บริการเนื่องจากไม่สามารถโอนย้ายไปดาวเทียมดวงอื่นของบริษัทได้ ในเบื้องต้นบริษัทประเมินว่าอาจส่งผลกระทบให้รายได้ลดลงจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นจำนวนประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี โดยเริ่มรับรู้ผลกระทบตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไป

สถานการณ์โควิด-19 ยังคงมิได้มีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/2563 โดยจำนวนช่องสัญญาณดาวเทียมที่ขายให้กับผู้ประกอบการช่องโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตไม่ได้ลดลงจากเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทอาจได้รับผลกระทบทางอ้อมหากสถานการณ์ยืดเยื้อจนส่งผลต่อธุรกิจของลูกค้าของบริษัท

การปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 ส่งผลให้จำนวนทรานส์พอนเดอร์หรือช่องสัญญาณโดยรวมที่บริษัทให้บริการ ณ สิ้นไตรมาส 1/2563  ลดลงเหลือ 71 ทรานส์พอนเดอร์ จาก 111 ทรานส์พอนเดอร์ โดยอัตราการใช้บริการของลูกค้าของดาวเทียมแบบทั่วไป ซึ่งได้แก่ ดาวเทียมไทยคม 6 ไทยคม 7 และไทยคม 8 ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 65% และสำหรับการให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์ไทยคม 4 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 21% ลดลง จาก 23% ณ สิ้นปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดระดับการใช้งานแบนด์วิธ จากลูกค้าผู้ใช้บริการต่างประเทศ

ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) และ บริษัท ทีพลัสดิจิทัล จำกัด (ทีพลัส) ในประเทศลาว รายงานจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไม่รวม fixed wireless) ในระบบรวมทั้งสิ้น 1.69 ล้านราย ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศลาว คิดเป็นประมาณ 62.5% ของตลาดรวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่ 61.1%

www.mitihoon.com