ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) เริ่มซื้อขาย 2 ก.ค. นี้

184

มิิติหุ้น – บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ของไทย พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ก.ค.  นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 48,578.52 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “STGT

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “STGT ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 

STGT ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางสำหรับใช้ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ มีทั้งถุงมือธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 32,619 ล้านชิ้นต่อปี ทั้งนี้ STGT เป็นบริษัทย่อยของ บมจศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ซึ่งได้มีการปรับโครงสร้างโดยการควบรวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ

STGT มีทุนชำระแล้ว 1,428.78 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน 438.78 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน เสนอขายให้บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนรายย่อย ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้มีอุปการคุณของบริษัท จำนวน 432.78 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของ STA และบริษัทย่อยของ STA จำนวน ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 34 บาท และเสนอขายกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของ STGT และบริษัทย่อยของ STGT จำนวน ล้านหุ้น ในราคา 30.60 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 14,904.92  ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 48,578.52 ล้านบาท โดยมี บล. ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย

นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า STGT เชื่อว่าบริษัทเป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและใหญ่เป็นลำดับต้น ๆ ของโลก การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้  จะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน และต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินระดมทุนไปขยายและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้มากกว่า 50,000 ล้านชิ้นต่อปี ในปี 2567 และ 100,000 ล้านชิ้นต่อปี ในปี 2575 เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

STGT มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่ม STA และครอบครัวสินเจริญกุล ถือหุ้น 66.1% นางสาวพูนสุข เชิดเกียรติกำจาย ถือหุ้น 2.3% และกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทฯ และ STA ถือหุ้น 0.8%

โดย STGT มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามข้อบังคับบริษัทและตามกฎหมาย ทั้งนี้ ต้องไม่เกินกำไรสะสมของ STGT ที่ปรากฎในงบการเงินเฉพาะกิจการ

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sritranggloves.com และที่ www.set.or.th