GULF เข้าซื้อโรงไฟฟ้า 464.8 MW มูลค่า 1.9 หมื่นลบ. ในเยอรมนี

468

มิติหุ้น-บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ (GULF) โดย น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน เปิดเผยว่า Gulf International Holding Pte. Ltd. (“GIH”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (SharePurchase Agreement) กับกลุ่ม Global Infrastructure Partners (“GIP”) เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของ Borkum Riffgrund 2Investor Holding GmbH, Frankfurt am Main, Germany (“BKR2 Holding”) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 ในโครงการBorkum Riffgrund 2 Offshore Wind Farm GmbH & Co. oHG (“โครงการ BKR2”) ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ548 – 558 ล้านยูโร หรือประมาณ 19,219 – 19,570 ลบ. โดยส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 ถือหุ้นโดยบริษัทในกลุ่ม ØrstedA/S (“Ørsted”) (เดิมชื่อ DONG Energy) โดยสัญญามีผลใช้บังคับในวันที่ 3 ก.ค. 63

โดยโครงการ BKR2 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตส่งออก 450.0 เมกะวัตต์) ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือน เม.ย. 62 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(Power Purchase Agreement: PPA) และสัญญาบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Agreement: O&M Agreement)กับกลุ่มบริษัท Ørsted เป็นระยะเวลา 20 ปีจากวันที่เปิดดำเนินการ นอกจากนี้ โครงการ BKR2 ยังมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบfeed-in tariff (FiT) ที่รับประกันโดยรัฐบาลประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 9.5 ปี หลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และจะได้รับค่าไฟฟ้าตาม merchant price โดยมีการรับประกันราคาขั้นต่ำ สำหรับปีที่ 9.5 – 20 จึงส่งผลให้ โครงการดังกล่าวมีเสถียรภาพทางรายได้ในระยะยาว

บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของโครงการ BKR2 ที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจไปยัง
พลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการ BKR2 มีผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งอย่าง Ørsted ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจพลังงานลมในทะเล โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลติดตั้งทั่วโลกรวม 6.8 กิกะวัตต์และอีก 3.1 กิกะวัตต์ ที่จะสร้างเสร็จภายในปี 65 ในหลายประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร ประเทศเยอรมนี ประเทศเดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นต้น นอกจากนี้ Ørsted ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวกว่า 25 ปี และเป็นผู้ดำเนินโครงการ BKR2 ซึ่งจะทำให้สามารถร่วมงานด้วยกันต่อไปเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ อีกทั้งเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในระดับสากลอีกด้วย นอกจากนี้เนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ทันทีหลังจากการโอนหุ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านบทวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การเข้าลงทุนดังกล่างของ GULF เป็นบวก ต่อบริษัท เบื้องต้นคาดกำไรตามสัดส่วนที่ราว 600-700 ลบ./ปี Consensus ราว 10-15 %

www.mitihoon.com