แอร์เอเชีย หวังรัฐช่วยอุ้ม ย้ำ”ซอฟ์โลน-ลดภาษีน้ำมัน” พยุงปีกธุรกิจให้บินได้ต่อ กูรูชี้เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว

302

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV ดำเนินธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้รับข้อเสนอจาก 7 ผู้บริหารสายการบินในประเทศด้วยตัวเอง เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่ง โดยเฉพาะการขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงินรวม  2.4 หมื่นล้านบาท ขณะนี้รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆถึงมือ สถาบันการเงินของรัฐแล้ว คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) หลังจากได้หารือกับกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หลายครั้ง คาดว่าจะได้เงินกู้ในเดือนตุลาคมนี้

โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งมาจนถึงตอนนี้ทุกสายการบินต่างได้รับผลกระทบหนักจนไม่สามารถทำตามเงื่อนไขปกติ ของธนาคารพาณิชย์ได้ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งบางรายหากได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลบางส่วน ก็อาจมีกำลังพอในการกู้ธนาคารพาณิชย์ในส่วนที่เหลือ สำหรับแอร์เอเชียเอง ได้วางแผนสำรองสำหรับการกู้เงินสถาบันการเงินต่างประเทศไว้ด้วย

ส่วนข้อเสนอในเรื่องการต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้่อเพลิงเครื่องบิน เรื่องนี้คาดว่ากระทรวงการคลังต้องใช้เวลาในการพิจารณา และพอใจกับข้อเสนอในเรื่องการลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ของสายการบินในประเทศ เช่น ค่าจอดเครื่องบิน ค่าservice charge และค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร ที่นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะขยายให้จนถึงเดือน มี.ค.2565 เนื่องจากประเมินแล้วว่าเศรษฐกิจน่าจะกลับมาเริ่มฟื้นตัวได้ในปี 2565 ปีหน้าเป็นปีที่ต้องทำงานหนัก ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบให้ชดเชยได้อย่างน้อยใกล้เคียงกับเม็ดเงินที่หายไป โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยว

“สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เราไปเที่ยวด้วยกัน คอนเซ็ปต์ดี แต่ต้องยอมรับว่าคนไทยยังไม่กล้าใช้จ่าย เพราะไม่มั่นใจกับสถานการณ์ทำให้ไม่มีผลให้คนบินเพิ่มมากนัก อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มแอร์เอเชียร์ พร้อมในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการบินแบบเช่าเหมาลำ หรือ ชาร์เตอร์ไฟลท์ หากรัฐบาลทำ MOU ให้ต่างชาติเที่ยวไทย ภายใต้เงื่อนไข ASQ หรือ Alternative State Quarantine ได้ โดยเริ่มใช้กับ ภูเก็ตโมเดล ด้วยสภาพเครื่องที่พร้อมบิน และพนักงานที่พร้อมให้บริการ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการปลดออกแม้แต่คนเดียว” นายธรรศพลฐ์กล่าว

ด้าน บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แผนการดำเนินงานของ AAV ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2563 นี้ บริษัทพยายามลดค่าใช้จ่ายลงรวม 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน YoY โดยในปีนี้พยายามลดค่าใช้จ่ายทั้งหมด และควมคุมต้นทุนไว้ไม่ให้สูงเกินไป และรักษาสภาพคล่องทางการเงินไว้ โดยการยื่นการเจรจาชำระหนี้ออกไป รวมถึงได้รับมาตราการช่วยเหลือของภาครัฐต่างๆ โดยทางผู้บริหารคาดสามารถลดค่าน้ำมันได้ราว 50% จากเที่ยวบินที่น้อยลง ค่าสนามบินคาดลด 60% จากการต่อรองเจรจากับผู้ให้เช่าและทางท่าอากาศยาน

ด้านค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร คาดจะลดได้ 30% โดนขอความร่วมมือพนักงาน Leave without pay และในปีนี้ไม่มีการตั้งโบนัสสำหรับพนักงานไว้แม้ค่าใช้จ่าย แม้ด้านบุคลากรนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่สัดส่วนที่สูง แต่ยังคงต้องรักษาบุคคลากรไว้เพื่อรองรับการกลับมาดำเนินการในอนาคต

ขณะที่นโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวจากภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นให้มีการเดินทางมากขึ้น ส่งผลให้การบินฟื้นตัวกลับมา อีกทั้งดำเนินการจัดโปรโมชั่นใหม่ตั๋วเที่ยวบินแบบบุฟเฟ่ต์ สร้างรายได้กว่า 261 ล้านบาท ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากราคาปรับตัวลงมามากจากผลการดำเนินงานที่หดตัวจากการปิดดำเนินการของสายการบิน แต่เริ่มมองเห็นการฟื้นตัวของเที่ยวบินในประเทศที่ชัดเจนขึ้น จากทั้งสถานการณ์ที่ดีขึ้นของการแพร่ระบาดและนโยบายสนับสนุน และกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ อีกทั้งยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดการบินในประเทศไว้ได้ คาดครึ่งปีหลังยังคงอ่อนตัวลง แต่หากสาถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องคาดปีหน้าจะสามารถกลับมามีกำไรได้

www.mitihoon.com