บลจ.ยูโอบี เพิ่มทางลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก เสิร์ฟกองทุนใหม่ ‘UFFF’ ชูจุดเด่นผลตอบแทนเยี่ยม รับภาวะดอกเบี้ยต่ำ

111

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยความผันผวนของตลาดการลงทุนในทุกสินทรัพย์ช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับภาวะดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ถือว่าเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยได้ถูกปรับลดลงจนต่ำที่สุดในประวัติการณ์นั้น บลจ. ยูโอบี จึงมองหาโอกาสทางการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในภาวะการลงทุนดังกล่าว โดยเน้นการกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่เป็นตราสารหนี้คุณภาพดี ระดับ Investment Grade และมีสภาพคล่องสูง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้ขณะที่มีความผันผวนในระดับต่ำ

โดยได้เปิดตัวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฟิกซ์ อินคัม ฟันด์ ออฟ ฟันด์ (UFFF) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Fund of Funds ซึ่งความน่าสนใจของกองทุน UFFF คือการออกแบบโครงสร้างกองทุนและพอร์ตการลงทุนอย่างเหมาะสมกับแต่ละสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเน้นการกระจายการลงทุนไปยังกองทุนตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ที่มีคุณภาพกว่า 20 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งกระจายไปยังผู้ออกตราสารมากกว่า 100 รายผู้ออก* และหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อหาโอกาสทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่มีการบริหารความเสี่ยงให้กองทุนมีระดับความผันผวนต่ำ และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ” (*ข้อมูลอ้างอิงจาก Portfolio model ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)

แบ่งโครงสร้างลงทุน3ส่วน

กองทุน UFFF มีโครงสร้างการลงทุน 3 ส่วนหลัก เพื่อมุ่งสร้างสภาพคล่องและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในเวลาเดียวกัน โดยส่วนที่ 1. สัดส่วนประมาณ 50% ของพอร์ตการลงทุน ลงทุนเพื่อสภาพคล่องของกองทุนและโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยเน้นลงทุนในกองทุนตลาดเงิน (Money Market fund) ทั่วโลก ที่มีความผันผวนต่ำแต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน

ส่วนที่ 2. ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีคุณภาพทั่วโลก ทั้งในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ระดับ Investment Grade มุ่งให้สัดส่วนการลงทุนนี้ อยู่ในระดับ 30-35% ของพอร์ตการลงทุน และยึดหลักการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมในการคัดเลือกกองทุน พิจารณาทั้งในด้านผลตอบแทนและความเสี่ยงควบคู่กัน ในสัดส่วนนี้ทีมบริหารงานลงทุนมีการคัดเลือกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผู้ออกตราสารเป็นหลัก คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดีและเป็นกองทุนที่ผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจมายาวนานประกอบกับมีผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนที่ดีและสม่ำเสมอ

สำหรับส่วนที่ 3. กองทุนมุ่งเน้นลงทุนเพื่อเสริมโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับพอร์ตการลงทุน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ High Yield ในแต่ละภาวะตลาดในสัดส่วนที่แตกต่างกันไป โดยผู้จัดการกองทุนจะมีการประเมินความเสี่ยงและปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะตลาด ซึ่งการลงทุนในส่วนตราสารหนี้ High Yield จะไม่เกิน 20% ของพอร์ตการลงทุน

บริหารแบบActive-ยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด

กองทุน UFFF มีกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนแบบ Active โดยกองทุนเน้นการปรับสัดส่วนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด เพื่อหาโอกาสทางการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูงสุดในทุกช่วงภาวะเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงสภาพคล่องของกองทุนและการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม โดยทีมงานบริหารกองทุนของบลจ. ยูโอบี และทีมงานระดับภูมิภาค วิเคราะห์และติดตามปัจจัยพื้นฐานต่างๆ เช่น แนวโน้มและทิศทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ทิศทางนโยบายการเงินและการคลัง ภาวะการลงทุนของตราสารหนี้ กระแสเงินทุน (Fund Flow) ดีมานด์-ซัพพลายของตราสารหนี้แต่ละประเภท ฯลฯ รวมถึงภาพรวมผลการดำเนินงานกองทุน โดยมีการประชุมร่วมกับที่ปรึกษาการลงทุนอย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง เพื่อให้กองทุนรวมสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามที่คาดหวัง

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฟิกซ์ อินคัม ฟันด์ ออฟ ฟันด์ (UFFF) ความเสี่ยงของกองทุนระดับ 4 เสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 22 – 28 กันยายน 2563 กองทุน UFFF สามารถซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และรับเงินจากการขายคืนเข้าบัญชีใน 2 วันทำการถัดไป* (T+2)ผู้ลงทุนที่สนใจติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร 0-2786-2222 หรือเลือกทำรายการผ่านบริการออนไลน์ Premier Online หรือ UOBAM Invest (mobile application) และสำหรับผู้ลงทุนใหม่ สามารถเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์และลงทุนได้ทันที่ ผ่าน UOBAM Invest หรือคลิกที่ https://www.uobam.co.th/th/Channel/OpenAccountnew

www.mitihoon.com