TRUE ตัดขาย DIFบางส่วน กำเงินกว่า 4 พันลบ.

513

ผู้สื่อข่าว “มิติห้น” รายงานว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) โดย นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ได้มีมติอนุมัติการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้ นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (“กองทุนฯ”) ที่ถือโดยบริษัทฯ และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัทฯ”) จ านวนทั้งสิ้ นไม่เกิน 300,000,000 หน่วย (คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.822 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ) ให้แก่นักลงทุนที่มิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ โดยการกำหนดราคาเสนอขายที่แน่นอนของหน่วยลงทุนดังกล่าวจะกระทำโดยวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหน่วยลงทุนจากนักลงทุนที่สนใจ (Book Building)

ซึ่งมูลค่ารวมสิ่งตอบแทนเป็นไปตามราคาเสนอขายที่แน่นอนของหน่วยลงทุนซึ่งก าหนดโดยวิธีการส ารวจ ความต้องการซื้ อหน่วยลงทุนจากนักลงทุนที่สนใจ (Book Building)ซึ่งมีจ านวน 4,024.528 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนฯเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทฯ

ทั้งนี้ธุรกรรมการจำหน่ายหน่วยลงทุนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”) โดยมี ขนาดรายการสูงสุดตามเกณฑ์กำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 11.794 และเมื่อนับรวมกับรายการจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์อื่นๆ ระหว่าง 6 เดือนที่ผ่านมา (นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. ถึง 29 ก.ย. 63) จะมีขนาดรายการรวมสูงสุดเท่ากับร้อยละ 23.940

เปิดช่วงราคาซื้อขาย 13.5-14.0 บาท/หน่วย

ขณะที่มีรายงานว่า  บล.เครดิต สวิส (ประเทศไทย) ประกาศ Overnight block trade หุ้น DIF จำนวน 298 ล้านหุ้น (2.8% ของหุ้นเรียกชำระแล้ว) ช่วงราคาซื้อ ขาย 13.5-14.0 บาท/หน่วย (มีส่วนลด 1.4-4.9% จากราคาปิดวานนี้ที่ 14.20 บาท) มูลค่าซื้อขายรวม 4,024.5- 4,173.6 ล้านบาท โดย Vendor จะมี Lock-up 90 วัน อัตราค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย 0.25% โดย Settlement ที่ T+2

DIF น่าสนใจให้ยิลด์ 7 % 

ด้านบทวิเคราะห์บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ความเห็นเชิงกลยุทธ์ DBS ราคาที่ซื้อขายต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน แต่ก็ไม่ถึงกับมาก ส่วนสัดส่วนการถือหุ้นของ TRUE จะลดลงจากก่อนขายที่ 26% เป็น 23.2% ข้อดีคือจบ Overhang ในระยะสั้น สำหรับปัจจัยพื้นฐาน เรายังคงคำแนะนำซื้อ DIF โดยเฉพาะจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว โดยราคาปัจจุบันให้ Dividend yield กว่า 7% ถือว่าน่าจูงใจ

สำหรับการที่ TRUE จะไม่ต่อสัญญาเช่าสินทรัพย์ที่ล้าสมัยจากกองทุน DIF นั้น มีผลกระทบไม่มาก โดยมูลค่า สินทรัพย์ดังกล่าวคิดเป็นเพียง 3% ของทั้งหมด ทำให้ Dividend yield จะลดไปเพียง 0.2% เท่านั้น และกองทุนกำลังพิจารณาซื้อสินทรัพย์เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคตด้วยความเสี่ยง คือ 1) ไม่แน่นอนว่า TRUE จะมีการขายหุ้น DIF ออกมาอีกหรือไม่ในอนาคต, 2) การเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีที่จะส่งผลกระทบต่อการเช่าสินทรัพย์ของกองทุน

www.mitihoon.com