มิติหุ้น- HTECH รุกขยายธุรกิจในสหรัฐหวังขยายฐานลูกค้าชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องบินเล็งขยายกำลังผลิตเพิ่ม อีก 2 เท่า “ผู้บริหาร”ย้ำจากนี้ไปธุรกิจที่ขยายต้องสร้างกำไรที่ดีขึ้น โบรกแนะหุ้น Laggard น่าซื้อราคายังต่ำบุ๊ก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิตและจำหน่ายเครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำมาจากเพชรสังเคราะห์ (PCD) แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม มั่นใจช่วงครึ่งหลังผลประกอบการจะดีกว่าช่วงครึ่งแรกที่มีรายได้รวม 442.23 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.94 ล้านบาท ดังนั้นผลงานทั้งปีก็มีโอกาสมากกว่ากำไรปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 51.03 ล้านบาท เนื่องจากออเดอร์ในส่วนกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ก็เริ่มฟื้นตัว เช่นเดียวกับ กลุ่มลูกค้ายานยนต์เช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้ ในส่วนของบริษัทย่อยในเวียดนาม ซึ่งมีทั้งลูกค้ากลุ่มยานยนต์ซึ่งมีทั้งยานยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า นั้นยังไปได้ดีไม่ได้รับผลกระทบจากผลกระทบของโควิด-19
นอกจากนี้เมื่อช่วงกลางปีบริษัทยังรุกขยายฐานลูกค้าไปยังปรตะเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มโดยเข้าซื้อหุ้น Mastertech Diamond Products Company (MDP) สัดส่วน 80% มูลค่าราว 158 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องบิน อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ นั้นตามแผนบริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า เนื่องจากที่นั่นมีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ดังกล่าวอยู่มากทำให้ไม่ต้องเสียเวลาขนส่งและภาษีด้วย ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมาสร้างรายได้ราว 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(หรือราว 30 กว่าลบ.) กำไรขั้นต้นอยู่ไม่เกิน 10 % ช่วยหนุนรายได้เพิ่มราว10-15 % ด้านนายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ HTECH เปิดเผยว่า รายได้ในปี 63 อย่างน้อยต้องใกล้ปีที่ผ่านมาแต่บริษัทจะเน้นธุรกิจที่มีกำไรดี
ออเดอร์ซื้อเริ่มกลับมา
ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่า HTECH ได้รุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องซึ่งล่าสุดเข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตอุปกรณ์ตัดเฉือนโลหะ ในรัฐโอไฮโอ ซึ่งได้ขยายกลุ่มลูกค้าประเทศ ชิ้นส่วนเครื่องบิน ยานยนต์จึงถือเป็นการเพิ่มช่องทางและกระจายเสี่ยงได้ดี ผู้บริหารเผยแนวโน้มคำสั่งซื้อกลับเข้ามาเร็วและมากขึ้น หลังจากชะลอช่วงโควิดไปราว 2 เดือน และ supply chain จีนเสียหาย ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องกลับมาเร่งผลิตสินค้าเป็นเท่าตัว HTECH จึงขายของได้เยอะ ราคาหุ้นตรงนี้ยังไม่ตอบรับข่าวซ่อนวงในนี้ อีกทั้ง Book value ระดับ 3.57 บาท ถือเป็นของถูกอีกตัวที่น่าสนใจ
