AEC ควัก 180 ลบ. ลุยธุรกิจใหม่ ซื้อหุ้น “ไทย สมายล์ บัส – คัฟเวอร์แนนท์” รุกธุรกิจบัสโดยสาร-ผลิตเสื้อผ้าด้วยนวัตกรรม หนุนอนาคตยั่งยืน

169

 

มิติหุ้น-บอร์ด AEC ไฟเขียวอนุมัติเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ มูลค่ารวม 180 ล้านบาท โดยเข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ดำเนินธุรกิจบัสโดยสารใน กทม.และปริมณฑล  มูลค่าลงทุน 120 ล้านบาท และซื้อหุ้น 9.917% ของบริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด (CVN) ทำธุรกิจผลิตเสื้อผ้าด้วยนวัตกรรมใหม่ มูลค่า 60 ล้านบาท ด้าน”ประพล มิลินทจินดา” ระบุการลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายประพล มิลินทจินดา ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)  หรือ AEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม  2563 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) เป็นจำนวนเงิน 120 ล้านบาท จำนวนหุ้น 12,000,000 หุ้น คิดเป็น 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ TSB และ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด (CVN) จากผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน  1,090,909 หุ้น คิดเป็น 9.917% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 60 ล้านบาท ซึ่งรวมรายการลงทุนทั้ง 2 รายการเป็นจำนวนทั้งสิ้น 180 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ประกอบธุรกิจการขนส่งผู้โดยสารด้วยรถประจำทางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีการลงทุนใน 8 บริษัท ที่ได้รับอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร เพื่อให้บริการขนส่งสาธารณะแก่ประชาชน โดยได้รับสัมปทานใบอนุญาตเส้นทางเดินรถขนส่งเป็นเวลา 7 ปี จากกรมการขนส่งทางบก โดยรถยนต์ที่ให้บริการเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อน

ขณะที่ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด (CVN) ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าที่เน้นการผลิตแบบนวัตกรรม และเน้นการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงระบบขนส่งสินค้า

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการปรับโครงสร้างกิจการ และแต่งตั้ง บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นและคำปรึกษาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างกิจการ

“สำหรับการลงทุนเข้าซื้อหุ้นของ 2 บริษัทดังกล่าว เป็นการแตกไลน์การดำเนินธุรกิจไปสู่รูปแบบอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งคาดหวังว่า จะช่วยสนับสนุนด้านผลประกอบการของบริษัทฯ ให้กลับมายืนหยัดได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง  พร้อมทั้งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป” นายประพล กล่าวในที่สุด

www.mitihoon.com