โบรกเกอร์ ฟันธงหุ้น “SABUY” เติบโตแกร่ง อนาคตไกล ให้ราคาเป้าหมาย 4 บาท

564

มิติหุ้น- บทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ ชั้นนำหลายแห่ง อาทิ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บล.คิงส์ฟอร์ด กล่าวว่า บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY”) เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน ที่มี Eco System เป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นธุรกิจค้าปลีก (E-Commerce) รูปแบบใหม่ และ ให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านตู้เติมเงินแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้าระดับกลาง และ ลูกค้ารายได้น้อยทั่วประเทศ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ mai ในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

จากบทวิเคราะห์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) SABUY เป็นหนึ่งในผู้ประกอบกิจการตู้เติมเงินและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2 โดย SABUY เริ่มเห็นผลประกอบการกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้าจากการขยายตู้เติมเงินและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ในขณะที่ธุรกิจใหม่ ผ่านบริษัท สบาย มันนี่ จำกัด (SBM) (ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน) จะช่วยให้ผลการดำเนินงานเติบโตในระยะยาว เราประเมินกำไรสุทธิปี 2020 ที่ 92 ล้านบาท (+59% YoY) และปี 2021 ที่ 143 ล้านบาท (+ 56% YoY) หนุนโดยรายได้รวมที่จะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน และ ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติช่วงปี 2018-2022 CAGR +11%

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น SABUY ปี 2021 ที่ 4.00 บาท อิงวิธี PEG ที่ 0.8x (อิงกำไร ช่วง 3-4 ปีข้างหน้าที่ขยายตัวสูงแต่จะค่อยๆลดลงในอนาคต) และ EPS growth (2020-2023) ที่ +37% CAGR ที่อิงจากธุรกิจที่ดำเนินอยู่ปัจจุบัน (ตู้เติมเงิน ตู้ขายสินค้า และศูนย์อาหาร) โดยยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ SBM ที่เราคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรเติบโตของกำไรในระยะยาว

 

หนึ่งในผู้ประกอบการตู้อัตโนมัติที่มีโอกาสขยายตัวสูง SABUY และบริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด (VDP) เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรม ที่มีส่วนแบ่งทางตลาดเป็นอันดับ 2 ในธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ และ Vending machine (อิงจำนวนตู้เติมเงิน และ Vending machine) สำหรับธุรกิจตู้เติมเงิน บริษัทจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่าย และให้บริการซ่อมบำรุงเพื่อรองรับการทำงาน และมี call center ให้บริการตลอด 24 ชม. สำหรับตู้เติมเงิน อัตโนมัตินั้นได้ให้บริการที่หลากหลาย ได้แก่ การเติมเงินจ่ายชำระค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Prepaid และ Postpaid รับชำระบิลค่าไฟฟ้าและน้ำประปา การให้บริการรับฝากเงิน Banking Agent และการให้บริการเติมเงิน e-Money เข้า Wallet ต่างๆ เป็นต้น ในขณะที่ธุรกิจ Vending machine นั้นได้จำหน่ายสินค้าบริโภค และอุปโภค เช่น เครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย และสินค้าต่างๆ เป็นต้น โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการเพิ่มตู้เติมเงินอัตโนมัติและตู้ Vending machine ในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศ  สำนักงาน โรงอาหาร สถานีขนส่ง สถานีบริการน้ำมัน หอพัก และสถานศึกษา นอกจากนี้ SBM ยังได้รับอนุญาตจาก ธปท. ในการดำเนินงานทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น e-Money, Payment agent, Payment facilitator และ Fund transfer ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยหนุนให้การทำธุรกรรมผ่านตู้เติมเงิน และ Vending machine ให้มีความสะดวกเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจการชำระเงินของบริษัท

 

รายได้จากธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติจะเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เราประเมินว่าบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2020-2022 เฉลี่ยปีละ 7% หนุนโดย 1) การขยายตู้เติมเงินอัตโนมัติเพิ่มขึ้นปีละ 2.0 พันเครื่อง และ 2) มูลค่าการทำธุรกรรมผ่านตู้เฉลี่ยต่อเดือน (ARPU) ที่ 1.0 หมื่นบาท และจะเพิ่มขึ้นในระยะยาวปีละ 2-3%
(ใกล้เคียงกับประมาณการ
GDP ของ ธปท. ที่คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนปี 2021จะขยายตัว 2.0%) จากจำนวนธุรกรรมที่เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตภายหลังที่บริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบตู้เติมเงินให้สามารถรองรับการใช้            e-Money รูปแบบบัตร (Card based) และเพิ่มศักยภาพการทำงานของตู้เติมเงินในระบบ Eco System ของบริษัท

 

ด้านยอดใช้จ่ายผ่านตู้ต่อเดือน (ARPU) คาดว่ามีขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2021 และต่อเนื่องในระยะยาวที่ 5% ต่อปี หนุนโดยการหาสินค้าที่มีความหลากหลายและมีราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากเดิมที่บริษัทเน้นการขายเครื่องดื่ม และขนม ทั้งนี้ เราคาดว่าบริษัทมีความเสี่ยงต่ำจากปัญหาสินค้าอุปโภคที่ล้าสมัย เนื่องจากบริษัทมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับความนิยมในแต่ละช่วงเวลา

 

ประเมินกำไรสุทธิปี 2020 ที่ 92 ล้านบาท และขยายตัวต่อเนื่องไปปี 2021 อยู่ที่ 143 ล้านบาท หนุนโดย 1) รายได้รวมที่จะเพิ่มขึ้นจากจำนวนตู้เติมเงิน และ Vending machine ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากธุรกิจการให้บริการ Food Court ที่จะขยายตัว ในปี 2020 และขยายตัวอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และ 2) SG&A/Sale จะปรับตัวลงจากปีก่อนตามการประหยัดจากขนาด ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่เราประเมินข้างต้น ยังไม่ได้รวมผลการดำเนินงานจากโครงการในอนาคตของธุรกิจ SBM ที่จะพัฒนา และดำเนินงานเป็น Eco System ซึ่งเราเชื่อว่าบริษัทจะต้องอาศัยระยะเวลาในการดำเนินงาน และ พัฒนาระบบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ผลการดำเนินงานในระยะยาวเติบโตอย่างแข็งแกร่ง